วิหารวรรณกรรม เวียดนาม

tour-amazon-hotel-vietnam

 

วิหารวรรณกรรม (วันเหมียว,Literature temple)

วิหารวรรณกรรม หรือ ชื่อเวียดนามว่า‘วันเหมียว’ (Van Mieu) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าหลีไทโต (Ly Thai Tong) อุทิศให้แก่ท่านศาสดาขงจื๊อ เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งของเวียดนาม ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบพันปี และถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม เช่นเดียวกับที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ ‘วัดโพธิ์’ ในบ้านเรา ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ‘วันเหมียว’ หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ‘วิหารวรรณกรรม

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1070 ซึ่งเป็นยุคของราชวงศ์ไล โดยพระเจ้าไล ไท ตอง โปรดฯให้สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูคุณธรรม โดยอุทิศให้แก่ขงจื๊อ ปราชญ์ชาวจีน ผู้ยึดมั่นในคุณธรรมความถูกต้อง

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

ต่อมาในปี 1076 ได้มีการสร้างโรงเรียนสำหรับขุนนางขึ้นในบริเวณเดียวกันกับวัด เพื่อให้เหล่าขุนนางได้เข้าศึกษาเล่าเรียนและสอบเป็นจอหงวน เมื่อถึงยุคสมัยของราชวงศ์ตรัน จึงได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเรียน วิชาที่สอนนั้นเป็นวิชาปรัชญาของขงจื๊อ ประกอบไปด้วยเรื่องการประพฤติปฏิบัติตน วิชาประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เป็นต้น

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

วิหารนี้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกของเวียดนาม ในบริเวณวิหารแบ่งออกเป็นลาน มีกำแพงล้อมรอบ 5 แห่งด้วยกัน เมื่อรอดซุ้มประตูทางเข้าใหญ่เข้าไปข้างในเป็นทางเดินปูหิน สองข้างทางเดินเป็นบ่อน้ำ ผ่านลาน 2 แห่งแล้วจะเห็นประตูกำแพงใหญ่ชื่อว่า ได๋แถงห์โมน (Dai Thanh Mon) อันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงฮานอย บนซุ้มประตูทำเป็นรูปพระอาทิตย์ส่องแสง บนหลังคามีรูปมังกรคู่คาบแก้ว ในอาคารชั้นเดียวรอบสระมีแผ่นหินจารึกชื่อจอหงวนที่ผ่านการสอบไล่ในระหว่างปีค.ศ.1445 – 1779 เดิมมีแผ่นหินชื่อจอหงวนเหล่านี้อยู่ 113 แผ่น แต่สูญหายไป คงเหลือเพียง 82 แผ่นเท่านั้น ลักษณะเด่นคือแผ่นหินนี้ตั้งยู่บนหลังเต่า

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

มหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนามนี้ ได้เปิดสอนจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 ก็ได้ปิดตัวลง และถูกทิ้งให้รกร้าง เมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเวียดนามเป็นเมืองขึ้น ปัจจุบันวิหารวรรณกรรมแห่งนี้กลายเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางการศึกษาของเวียดนาม และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฮานอย

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

แม้เวลาผ่านไปร่วมพันปี แต่วิหารวรรณกรรมแห่งนี้ยังได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้คงความเป็นตัวอย่างวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาว เวียดนามได้เป็นอย่างดี ภายในบริเวณวัดมีพื้นที่กว้างขวางโดยมีกำแพงล้อมรอบถึง 5 แห่ง และก่อนจะเข้าสู่ประตูใหญ่ของวิหาร เหนือขึ้นไปของประตูมีข้อความที่ขอร้องให้ผู้มาเยือนลงจากหลังม้าก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

หลังจากผ่านเข้าประตูทางเข้าวัดแล้วเป็นที่ตั้งของ ‘เคว วัน กั๊ก’ หรือตึกดาวลูกไก่ ซึ่งเป็นแหล่งที่เหล่านักอักษรศาสตร์ใช้ท่องบทกวี

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

อาคารด้านในของวิหารวรรณคดีเป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพของขงจื๊อ เป็นสถานที่บูชาขงจื๊อ มีแผ่นหินสลักคำสอนของท่านปรมาจารย์ไว้ด้วย

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

เมื่อผ่านประตูแห่งความสำเร็จ หรือ ‘ได๋ แถงห์ โมน’ ก็จะพบกับลานโล่งล้อมรอบสระน้ำใหญ่ที่มีชื่อว่า สระแสงงาม หรือ ‘เทียน กวาง ติงห์’ ซึ่งลานบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของแผ่นจารึกชื่อของ จอหงวน ที่ผ่านการสอบหลักสูตร 3 ปี ซึ่งแต่ละแผ่นตั้งอยู่บนหินรูปเต่า ที่มีจำนวนถึง 82 แผ่น จากที่เคยมีอยู่เดิมถึง 117 แผ่น โดยเริ่มมีการบันทึกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1442-1779 ด้านตรงข้ามกับวิหารมีอาคารแห่งการเฉลิมฉลอง หรือ ‘ไบ๋ เยือง’ ซึ่งเป็นที่ตั้งเครื่องเซ่นสังเวยให้แก่ขงจื้อ

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

อีกทั้งยังเป็นบริเวณที่กษัตริย์ได้ทรงมอบน้ำพระพิพัฒน์สัตยาให้กับอาจารย์ผู้สอนในอดีต ซึ่งบริเวณนี้มีแผ่นไม้ที่สลักไว้ด้านบนแท่นบูชาว่า ‘อาจารย์ของนักเรียนกว่าพันรุ่น’ นอกจากนี้ ภายในวิหารวรรณกรรมแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรม รวบรวมผลงานด้านศิลปกรรม ทั้งงานปั้น งานแกะสลัก และรูปภาพ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

 

tour-amazon-hotel-vietnam

 

tour-amazon-hotel-vietnam