2 ช่องทางและวิธีการเดินทาง แผนที่ ภูมิอากาศ กระบี่
ช่องทางและวิธีการเดินทาง จังหวัดกระบี่
รถยนต์
1. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
2. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีก ถึงจังหวีดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
3. การเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข
4 ระยะทาง 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง จากสถานีขนส่งภูเก็ตมีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน
รถโดยสารประจำทาง
มีรถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน ทั้งรถปรับอากาศและรถธรรมดาสอบถามข้อมูล โทร. 0 2435 1199, 0 2435 1200 หรือ www.transport.co.th สำหรับบริษัทเดินรถเอกชน ติดต่อ บริษัท ลิกไนท์ จำกัด โทร. 0 2435 1199, 0 2435 1200
จากสถานีขนส่งภูเก็ตมีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน
รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถยนต์โดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020
เครื่องบิน
มีบริการเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน สามารถสอบถามตารางบิน และข้อมูลเพิ่มเติม จากสายการบินต่างๆ ดังนี้
- บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โทร.1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000 หรือ www.thaiairways.com
- สายการบินภูเก็ตแอร์ โทร. 0 2679 8999 สนง.กระบี่ โทร. 0 7563 6393-4 หรือ www.phuketairlines.com
การเดินทางภายในจังหวัดกระบี่
จากตัวเมืองกระบี่มีรถโดยสารประจำทาง (สองแถว) ไปยังสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น บ้านห้วยโต้ บ้านหนองทะเล บ้านเขาทอง หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย อ่าวนาง บ้านคลองม่วง บ้านในสระ อำเภอเขาพนม อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม บ้านบ่อม่วง บ้านหัวหิน บ้านคลองพน อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา สามารถขึ้นรถได้ที่ห้างสรรพสินค้าโว้ค ถนนมหาราชในตัวเมืองกระบี่ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือเช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่
แผนที่ จังหวัดกระบี่
แผนที่ท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ นิววิวทัวร์
แผนที่ตัวเมือง จังหวัดกระบี่ นิววิวทัวร์
ภูมิอากาศ จังหวัดกระบี่
จังหวัดกระบี่มีภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกตลอดปี และมีเพียง 2 ฤดู คือ
ฤดูร้อน มี 4 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนเมษายน
ฤดูฝน มี 8 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม
ที่เรียกกันว่า ฝนแปดแดดสี่
ลักษณะอากาศทั่วไป
เนื่องจากจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ทะเล อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีมีค่าคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และมีฝนตกชุกในฤดูฝน เพราะอยู่ทางด้านรับลม จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดผ่านมหาสมุทรอินเดียอย่างเต็มที่ ส่วนฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด เพราะอยู่ไกลจากอิทธิพลของอากาศหนาวพอสมควรและบางครั้งอาจมีฝนตกได้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทยพาเอาฝนมาตก แต่มีปริมาณน้อยกว่าจังหวัดที่อยู่ทางด้านตะวันออกของภาคใต้
อุณหภูมิ
จังหวัดกระบี่อยู่ใกล้ทะเล ฤดูร้อนจึงไม่ร้อนมาก ส่วนฤดูหนาวไม่ถึงกับหนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 28.3 ซ.อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 31.7 ซ. อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 24.6ซ. เคยตรวจอุณหภูมิสูงที่สุดได้ 37.3 ซ. เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2526 เดือนที่มีอากาศหนาวที่สุดคือเดือนธันวาคมและมกราคม เคยตรวจอุณหภูมิต่ำที่สุดได้ 20.8 ซ. เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2527
ความชื้นสัมพัทธ์
จังหวัดกระบี่จะมีความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในเกณฑ์สูง เพราะได้รับอิทธิพลจากมรสุมทั้งสองฤดูและภูมิประเทศอยู่ใกล้ทะเลมีกระแสลมพัดผ่านตลอดเวลา ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปีประมาณ 78 % ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ย 90 % ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดเฉลี่ย 67 % ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำที่สุดเคยตรวจได้ 27 % ในเดือนเมษายน
ฝน
เนื่องจากจังหวัดกระบี่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของภาคใต้ซึ่งรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ในฤดูฝนจึงทำให้มีฝนตกมากในฤดูฝน ส่วนในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกน้อย เพราะถูกทิวเขาทางด้านตะวันออกของภาคใต้ปิดกั้นทางลมไว้ ปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 2,142.3 มิลลิเมตร ฝนตกประมาณ 147 วัน เดือนที่มีฝนตกมากที่สุดคือเดือนกรกฎาคม มีฝนเฉลี่ย 437.9 มิลลิเมตร ฝนตกประมาณ 21 วัน ฝนสูงสุดใน 24 ชั่วโมง เคยตรวจได้ 167.8 มิลลิเมตร เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2527
จำนวนเมฆ
ตลอดทั้งปีจะมีจำนวนเมฆเฉลี่ยประมาณ 6 ส่วนของจำนวนเมฆในท้องฟ้า 8 ส่วน โดยในฤดูหนาวมีเมฆประมาณ 5 ส่วน ฤดูร้อนเมฆประมาณ 6 ส่วน ส่วนในฤดูฝนซึ่งมีอากาศชุ่มชื้นท้องฟ้าจะมีเมฆมากประมาณ 7 ส่วน
หมอก ฟ้าหลัว และ ทัศนวิสัย
จังหวัดกระบี่ไม่มีโอกาสเกิดหมอกเลย ส่วนฟ้าหลัวเกิดในระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมประมาณ 1 - 2 วัน ในช่วงที่มีฟ้าหลัวทัศนวิสัยจะเห็นได้ไกลประมาณ 7 กิโลเมตร ทัศนวิสัยเฉลี่ยเวลา 07.00 น. ประมาณ 10 กิโลเมตร และทัศนวิสัยเฉลี่ยตลอดวันประมาณ 11 กิโลเมตร
ลม
จังหวัดกระบี่มีลมพัดผ่านประจำตลอดปีดังนี้ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็วลมเฉลี่ย 6 - 11 กม./ชม. เดือนเมษายนถึงตุลาคมเป็นลมทิศตะวันตก ความเร็วลมเฉลี่ย 7 - 11 กม./ชม. กำลังลมสูงที่สุดที่เคยตรวจได้มีดังนี้ ฤดูหนาวเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 39 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนมกราคม ฤดูร้อนเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 39 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันตกในเดือนเมษายน ส่วนฤดูฝนเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 65 กม./ชม. เป็นลมทิศตะวันตกค่อยไปทางเหนือเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน
พายุหมุนเขตร้อน
พายุหมุนเขตร้อนที่ผ่านบริเวณภาคใต้และทำความกระทบกระเทือนให้กับจังหวัดกระบี่ ส่วนมากเป็นพายุดีเปรสชั่นที่มีกำลังอ่อนจากทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิค จะทำให้มีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง บางครั้งทำให้เกิดน้ำท่วมได้ กำลังของลมและคลื่นในทะเลจะทำอันตรายแก่เรือขนาดเล็กและอาคารบ้านเรือนที่อยู่ตามชายฝั่งได้ พายุที่มีความรุนแรงและทำความเสียหายให้แก่จังหวัดกระบี่และภาคใต้เป็นบริเวณกว้าง ได้แก่พายุโซนร้อน “ฮาเรียต” ซึ่งก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ใกล้ปลายแหลมญวน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2505 แล้วเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยพร้อมทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และได้เคลื่อนตัวผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2505 ลงสู่ทะเลอันดามัน พายุนี้ได้ทำความเสียหายเกือบทุกจังหวัดในภาคใต้ โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 935 คน และบาดเจ็บ 445 คน ทรัพย์สินของราชการและเอกชนเสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 1,320 ล้านบาท นับเป็นความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศไทย