7 ประวัติ อื่นๆ มุกดาหาร

tour-history-miscelleneous-domestic
ประวัติ อื่นๆ จังหวัดมุกดาหาร

tour-history-mukdahanตราประจำจังหวัด

คำขวัญ
หอแก้วสูงเสียดฟ้า ภูผาเทิบแก่งกะเบา แปดเผ่าชนพื้นเมือง ลือเลื่องมะขามหวาน กลองโบราณล้ำเลิศ ถิ่นกำเนิดลำผญา ตระการตาชายโขง เชื่อมโยงอินโดจีน

เมืองมุกดาหาร เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครพนมมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2450 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2525  รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดมุกดาหารขึ้นเป็นจังหวัดที่ 73 ของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่ 17 ของภาคอีสาน จังหวัดมุกดาหารอยู่ห่างกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ 624 กม. ตั้งอยู่ติดชายฝั่งแม่น้ำโขงตอนใต้ของจังหวัดนครพนม ตรงกันข้ามกับเมืองสำคัญทางตอนใต้ของประเทศลาว คือ สุวรรณเขต (หรือสวรรค์เขต)มุกดาหารจึงเป็นประตูด่านสำคัญสู่กลุ่มประเทศอินโดจีน มีความสัมพันธ์ฉันท์บ้านพี่น้องกับแขวงสวันเขต สปป.ลาว มาช้านาน โดยมีแม่น้ำโขงซึ่งมีความยาวถึง 70 กิโลเมตร เป็นเส้นกั้นพรมแดน และมีความโดดเด่นในด้านชนเผ่า

พื้นเมืองต่างๆที่มีถึง 8 เผ่าได้แก่ เผ่าไทยอีสาน ภูไท ไทยข่า กระโซ่ ไทยย้อ ไทยกะเลิง ไทยแสกและไทยกุลา และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามจังหวัดมุกดาหารไม่ค่อยจะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพราะเหตุว่าเดิมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนครพนม จึงไม่ค่อยจะพบเรื่องราวที่บันทึกไว้ แต่ก็คงมีประวัติควบคู่มากับเมืองนครพนมและเมืองธาตุพนม จากศิลาจารึกวัดธาตุพนม 3 ลงศักราช พ.ศ.2349 (สมัยรัชกาลที่ 2)

ตามประวัติของจังหวัดมุกดาหารกล่าวไว้ว่า เจ้ากินรีซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเมืองโพนสิน (บริเวณธาตุอินฮัง แขวงสุวรรณเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปัจจุบัน) ได้อพยพผู้คนข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งเมืองใหม่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ตรงบริเวณปากห้วยมุก เมื่อปี พ.ศ.2310 เหตุที่เลือกปากห้วยมุกนี้ เพราะนายพรานซึ่งอยู่ในปกครองของเจ้ากินรีได้ข้ามฝั่งโขงมาล่าสัตว์ และเมื่อถึงบริเวณปากห้วยมุกได้พบต้นตาลต้นหนึ่งมี 7 ยอด และพบกองอิฐปรักหักพังอยุ่ใต้ต้นตาลซึ่งสันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ตั้งบ้าน เมืองมาก่อน นายพรานจึงนำความไปแจ้งเจ้ากินรี

เมื่อเจ้ากินรีมาตรวจดู เห็นว่าเป็นทำเลเหมาะแก่การตั้งเมือง จึงอพยพผู้คนข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งเมืองที่บริเวณปากห้วยมุกและเมื่อตั้งเมือง ใหม่ ๆ นั้น ผู้คนได้เห็นแก้วดวงหนึ่งมีสีสดใสลอยออกมาจากต้นตาล 7 ยอดในตอนกลางคืน และลอยกลับมาที่ต้นตาลในตอนเช้ามืดแทบทุกวัน เจ้ากินรีจึงให้ชื่อแก้วดวงนั้นว่า แก้วมุกดาหาร และให้ชื่อเมืองว่า เมืองมุกดาหาร ตั้งแต่เดือน 4 ปีกุน พ.ศ.2313 เป็นต้นมา

อันเกิดจากศุภนิมิตรที่พบเห็นในขณะที่กำลังสร้างเมือง ชาวเมืองทั่วไปเรียกมุกดาหารว่า เมืองมุก ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ ให้เจ้ากินรีเป็นพระยาจันทรศรีสุราช อุปราชามัณฑาตุราช ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองคนแรกของเมืองมุกดาหาร เมื่อปี พ.ศ. 2321 หลวง หว้านใหญ่ และหนองสูง

ต่อมาในปี พ.ศ.2321 เมืองเวียงจันทน์ได้ยกทัพมาตีเมืองลุ่มบัวลำภู (อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานีปัจจุบัน) สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาจักรียกกองทัพไปช่วยเมืองลุ่มบัวลำภู เจ้าพระยาจักรียกทัพเรือมาตามลำน้ำโขง ปราบปรามเมืองนครจำปาศักดิ์และเวียงจันทน์ โดยได้ตีเอาเมืองน้อยใหญ่ตามลำน้ำโขง รวมทั้งเมืองมุกดาหารเข้ามาอยู่ในความปกครองของกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้ากินรีเป็น “พระยาจันทร์ศรีสุราชอุปราชามัณฑาตุราช” เจ้าเมืองมุกดาหารมีเจ้าเมืองสืบต่อกันมาจนถึง พ.ศ.2434 หลังจากการปราบกบฎฮ่อแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงให้จัดการปกครอง

แบบมณฑลขึ้นในภาคอีสาน เมืองมุกดาหารจึงถูกรวมเข้ากับมณฑลลาวพวน ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองหนองคาย โดยมีกรมหลวงปรจักษ์ศิลปาคมเป็นข้าหลวงประจำมณฑล ต่อมามณฑลลาวพวนได้เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลฝ่ายเหนือ ในปี พ.ศ.2442 แต่เมืองมุกดาหารได้แยกออกมารวมเข้ากับบริเวณธาตุพนม พ.ศ.2443 ได้เปลี่ยนชื่อมณฑลฝ่ายเหนือมาเป็นมณฑลอุดร แล้วยกเลิกการปกครองแบบบริเวณโดยให้เมืองมุกดาหารขึ้นกับมณฑลอุดร ต่อมาในปี พ.ศ.2450 เมืองมุกดาหารได้ถูกยุบลงเป็นอำเภอมุกดาหารขึ้นกับจังหวัดนครพนม

อาณาเขต

ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร และอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญและอำเภอหนองพอก อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงสวันเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอกุฉินารายณ์ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์