วัดวิชุนราช ลาว
วัดวิชุนราช พระธาตุหมากโม และวัดอาฮาม
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 และตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์ วัดแห่งนี้ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญอย่างพระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางอีกด้วยเราเข้าไปไหว้พระประธานภายในสิม หลังจากกราบพระเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเดินไปด้านหลังพระประธานเพื่อชมพระพุทธรูปไม้เก่าแก่ รวมทั้งศิลปวัตถุต่างๆ ที่รวบรวมจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบางมาเก็บรักษาไว้ที่นี่ นอกจากนี้ ในวัดวิชุนยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ "พระธาตุหมากโม" พระธาตุที่มีลักษณะคล้ายผลแตงโมคว่ำผ่าครึ่ง เป็นพระธาตุสำคัญของวัดและของเมืองหลวงพระบางอีกแห่งหนึ่งด้วย
ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในบรรดาวัดทั้งหมดในเมืองหลวงพระบางเป็นต้องยกนิ้วให้วัดวิชุนในเรื่องมีความแปลกที่พระธาตุรูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม และเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เอง ที่กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของให้มีความสำคัญและความโดดเด่นของวัดวิชุน
พระเจ้าวิชุลราชทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้นในราวปีพ.ศ 2046 เพื่อประดิษฐานพระบาง ต่อมาพระมเหสีโปรดให้สร้างพระธาตุขึ้นในบริเวณวัดอีก 1 องค์ ลักษณะทรงโอควํ่า คล้ายผลแตงโมผ่าซีกวางคลํ่าลงบนฐาน จึงได้ชื่อว่าพระธาตุหมากโม
วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม พระธาตุหมากโมนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
พระอุโบสถ หรือที่ชาวลาวเรียกว่าสิม เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบาง ตัวอุโบสถมีรูปทรงอาคารไทลื้อสิบสองปันนา ซึ่งมีจุดเด่นคือส่วนคอชั้นสองจะยกระดับสูงขึ้นไป ส่วนบนหลังคาประดับด้วยโหง่(หรือช่อฟ้าแบบไทย) ตรงกลางหลังคามีช่อฟ้า เป็นรูปปราสาทยอดฉัตรเล็กๆ ลดหลั่นหลายชั้น หน้าต่างพระอุโบสถประดับด้วยลูกมะหวด บานประตูด้านหน้าทั้งสามช่องแกะสลักลงรักปิดทอง มีรูปพระศิวะ พระวิษณุ พระพรหม และพระอินทร์ ศิลปะแบบเชียงขวาง
พระประธาน หรือพระองค์หลวงในพระอุโบสถมีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง ด้านหลังพระประธานมีโบราณวัตถุที่เก็บรวบรวมมาจากวัดร้างต่างๆ ในหลวงพระบาง เช่นพระพุทธรูปสำริด พวกไม้จำหลักลวดลายต่างๆ พระพุทธรูปไม้แกะสลักลงรักปิดทองสูงเท่าคนจริงจำนวนมาก
พระธาตุแห่งนี้ได้รับการบูรณะ ในสมัยเจ้าชีวิตจักรินทร์ และในสมัยเจ้ามหาชีวิตสว่างพัฒนาได้พบพระเจดีย์ทองคำพระพุทธรูปทำด้วยทองคำ เงิน สำริด และวัตถุโบราณอื่นๆ มากมาย สิ่งของที่พบใน พระธาตุนี้ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวงพระบาง
ภายในสิมนอกจากพระประธานองค์ใหญ่แล้ว ด้านข้างและด้านหลังองค์พระมีพระพุทธรูปทั้งไม้และสำริด รวมทั้งศิลปวัตถุต่าง ๆ ซึ่งรวบรวมมาจากวัดร้างทั้งหลายในหลวงพระบาง เนื่องจากที่นี่เคเป็นหอพิพิธภัณฑ์มาก่อนที่จะย้ายหอพิพิธภัณฑ์ไปที่พระราชวังเดิมภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ด้านหน้าสิมคือ พระธาตุหมากโม ซึ่งเป็นจุดสนใจที่สำคัญของวัด เนื่องจากรูปทรงที่แตกต่างจากพระธาตุทั้งหลายในเมืองลาว
ด้านข้างสิมมีทางเดินเชื่อมระหว่างวัดวิชุนวัดอาฮาม ตรงรอยต่อของเขตพัทธสีมาเป็นซุ้มประตูโขง อันเป็นลักษณะของวัดแบบล้านนาและล้านช้างในอดีต ซุ้มประตูโขงที่วัดนี้เก่าแก่ที่สุดในบรรดาประตูโขงทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่เมืองหลวงพระบาง
ในสมัยฮ่อบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง วัดวิชุนถูกพวกฮ่อเผาทำลาย จนรัชสมัยพระเจ้าสักกะรินะรินจึงได้บูรณะวัดนี้ขึ้นใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๕๗ โดยมี อองรี มาร์แซล นายช่างฝรั่งเศสผู้เคยบูรณะนครวัดเป็นแม่งาน
สถานที่ตั้ง อยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง
ค่าเข้าชม 20,000 กีบ (ประมาณ 40 บาท)
เปิดเวลา 07.00 –17.30 น
วัดอาฮาม
เป็นวัดเล็ก ๆ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บชุด “ปู่เยอ – ย่าเยอ” อยู่ติดกับวัดวิชุน สร้างโดยพระเจ้ามันธาตุราชเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๖๑ ตรงบริเวณที่เจ้าฟ้างุ้มตั้งหอเสื้อเมืองเมื่อครั้งสถาปนานครศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว จุดที่ตั้งวัดจึงถือว่าเป็นสะดือเมืองของหลวงพระบาง เดิมชื่อว่าบ้านหอเสื้อเมือง มาสมัยพระเจ้าโพธิสะราชได้รื้อศาลผีทั้งหลายในเมืองหลวงพระบางจนหมดสิ้นเพื่อให้คนลาวเลิกนับถือผี ภายหลังจึงสร้างขึ้นใหม่ที่ด้านข้างสิมเพื่อเป็นที่เก็บชุดปู่เยอ – ย่าเยอ (จะนำออกมาเฉพาะช่วงงานบุญเดือน ๕ หรือปีใหม่ลาวเท่านั้น) เมื่อสร้างวัดอาฮามขึ้นแล้วจึงเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านอาฮาม
ถ้าเข้าชมภายในสิมวัดอาฮาม เสียค่าบัตรราคา ๘,๐๐๐ กีบ
สิ่งน่าสนใจ
สิมวัดวิชุน
เป็นสถาปัตยกรรมสกุลช่างไทยลื้อ หลังคาลาดคลุมทั้งสี่ด้าน มีคันทวยหรือแขนนางรองรับโดยรอบ ระเบียงด้านหน้าที่หันออกสู่พระธาตุหมากโมมีชายคาใหญ่ยื่นลงมาคลุม ทำให้สิมแบบนี้ไม่มีหน้าบัน
พระธาตุหมากโม
เป็นเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัว แต่ชาวลาวทั่วไปเรียกว่า พระธาตุหมากโม เนื่องจากเห็นว่ามีรูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่งหรือทรงโอคว่ำ แตกต่างไปจากพระธาตุทั้งหลายในเมืองลาว พระนางพันตีนเซียงมเหสีของพระเจ้าวิชุนราช ซึ่งเป็นชาวพวนเมืองเชียงขวาง โปรดให้สร้างพระธาตุหมากโมขึ้นในปี พ.ศ.๒๐๕๗