2 ช่องทางและวิธีการเดินทาง แผนที่ ภูมิอากาศ เลย

ช่องทางและวิธีการเดินทาง จังหวัดเลย
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1(พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึงตัวจังหวัดเลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง หรือจะใช้เส้นทาง จากสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ผ่านจังหวัดนครราชสีมา ถึงจังหวัดขอนแก่น แล้วเลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 201 เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง ถึงตัวจังหวัดเลยได้เช่นเดียวกัน
รถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-เลย ทุกวัน ทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รายละเอียดสอบถามที่สถานีขนส่งสายอีสาน ถนนกำแพงเพชร 2 (หมอชิต 2) โทร. (02) 936-0667, 936-0657
ส่วนรถโดยสารของเอกชนติดต่อ บริษัท แอร์เลย
รถไฟ
การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรถไฟไปจังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น ซึ่งสามารถต่อรถยนต์ไปจังหวัดเลยได้อีกต่อหนึ่ง รายละเอียดสอบถาม หน่วยบริการเดินทาง สถานีรถไฟกรุงเทพฯ โทร. 233-7010, 223-7020
เครื่องบิน
บริษัท การบินไทย จำกัด มีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน วันละ 3 เที่ยว แล้วสามารถต่อรถยนต์ไปจังหวัดเลย อีกประมาณ 140 กม. รายละเอียดสอบถาม โทร. 280-0060, 628-2000 และที่จังหวัดอุดรธานี โทร. (042) 243222, 246697
ระยะทางจากจังหวัดเลยไปยังจังหวัดใกล้เคียง
| จังหวัดเพชรบูรณ์ | 80 กม. |
| จังหวัดหนองบัวลำภู | 102 กม. |
| จังหวัดขอนแก่น | 120 กม. |
| จังหวัดอุดรธานี | 143 กม. |
| จังหวัดหนองคาย | 170 กม. |
| จังหวัดพิษณุโลก | 210 กม. |
ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอ และกิ่งอำเภอต่างๆ
| อำเภอวังสะพุง | 23 กิโลเมตร |
| อำเภอนาด้วง | 32 กิโลเมตร |
| อำเภอเชียงคาน | 47 กิโลเมตร |
| อำเภอท่าลี่ | 47 กิโลเมตร |
| อำเภอภูหลวง | 49 กิโลเมตร |
| อำเภอภูเรือ | 50 กิโลเมตร |
| อำเภอผาขาว | 70 กิโลเมตร |
| อำเภอภูกระดึง | 73 กิโลเมตร |
| อำเภอด่านซ้าย | 82 กิโลเมตร |
| อำเภอปากชม | 90 กิโลเมตร |
| อำเภอนาแห้ว | 125 กิโลเมตร |
| กิ่งอำเภอเอราวัณ | 50 กิโลเมตร |
แผนที่ จังหวัดเลย
แผนที่ตัวเมือง จังหวัดเลย นิวววิวทัวร์
แผนที่ท่องเที่ยว จังหวัดเลย นิววิวทัวร์
ภูมิอากาศ จังหวัดเลย
จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่เรียกได้ว่าหนาวที่สุดของประเทศ เคยมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ -1.3 องศาเซลเซียส (2 มกราคม พ.ศ. 2517) อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 43.5 องศาเซลเซียส (25 เมษายน พ.ศ. 2517) อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 26.1 องศาเซลเซียส
และจะมีอุณหภูมิที่หนาวจัดในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม โดยช่วง 12 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 2.7 องศาเซลเซียส (พ.ศ. 2542) อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 42.5 องศาเซียลเซียส (พ.ศ. 2541)
จังหวัดเลยอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือประกอบกับภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขา ทำให้มีอากาศร้อนจัดในฤดูร้อน และหนาวจัดในฤดูหนาว
จังหวัดเลยมีพื้นที่เป็นภูเขาสูง จึงทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงง่ายตามฤดูกาลต่าง ๆแบ่งตามเวลาดังนี้
ฤดูร้อน เริ่มจากเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม (มีอุณหภูมิสูงสุดเดือนเมษายน ในปี 2535 อุณหภูมิสูงสุดถึง 43.5 องศาเซลเซียส)
ฤดูฝน เริ่มจากปลายเดือนพฤษภาคม-ปลายเดือนกันยายน (ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 862.3 มิลลิเมตรต่อปี)
ฤดูหนาว เริ่มจากกลางเดือนตุลาคม-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ (มีอุณหภูมิต่ำที่สุดที่เคยวัดได้ในท้องที่อำเภอภูเรือ -13 องศาเซลเซียสในปี 2517)
ดังนั้นจังหวัดเลยจึงเป็นจังหวัดที่หนาวที่สุดในประเทศไทย
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดเลยเป็นที่ราบสูง มีภูเขาสูงกระจัดกระจาย โดยเฉพาะทางตะวันตกและทางด้านใต้ของจังหวัด ทั้งนี้ยังมีแหล่งน้ำสำคัญคือแม่น้ำโขง ในบริเวณตอนบนของจังหวัด ซึ่งจังหวัดเลยมีภูมิประเทศที่แตกต่างกันถึง 3 ลักษณะอันได้แก่
จังหวัดเลยมีภูเขาส่วนใหญ่ทางตะวันตกโอบล้อมพื้นที่ อำเภอนาแห้ว อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอท่าลี่
ประชากรอาศัยอยู่น้อยในแถบนี้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกและภูมิประเทศซึ่งมีทิวเขาอยู่มากมายนี้ทำให้การสื่อสารโทรคมนาคมไม่สะดวกอีกด้วย
ส่วนบริเวณที่ราบต่ำรอบแม่น้ำโขงและแม่น้ำเลยซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน และอำเภอวังสะพุง การกสิกรรมแถบนี้อุดมสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของจังหวัดเลย
อาณาบริเวณที่ราบรอบๆ เนินเขาทางตะวันออกและภาคใต้ของเลยใกล้ภูกระดึง ภูหลวง ภูเก้า นาด้วงและปากชม การเกษตรกรรมสามารถทำได้มากกว่าพื้นที่อื่นๆ และมีประชากรหนาแน่นในพื้นที่นี้

