ปราสาทบ้านโนนธาตุ ศรีสะเกษ
ปราสาทบ้านโนนธาตุ
ปราสาทบ้านโนนธาตุ (Prasat ban none that) หรือ ปราสาทห้วยทับทัน ตั้งอยูในบริเวณวัดปราสาทพนาราม หมู่ 1 ตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ในตำแหน่งเส้นรุ้ง (longtitude) ที่ 15 องศา 05 ลิปดา 55 ฟิลิปดาเหนือ เส้นแวง (latitude) ที่ 104 องศา 02 ลิปดา 05 ฟิลิปดาตะวันออกอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอห้วยทับทัน 7 กิโลเมตร อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ 45 กิโลเมตร (ถนนหลวงหมายเลข 226 แยกไปอีก 7 กิโลเมตร) ปราสาทบ้านโนนธาตุ ตั้งอยู่บนเนินดินขนาดใหญ่ ในอดีตเคยมีร่องน้ำร้อมรอบ ปัจจุบันถูกไถกลบจากการทำนาจนเกือบหมดสิ้นคงเหลือเพียงบางส่วนทางด้านทิศตะวันตกเท่านั้น องค์ประกอบของโบราณสถานแห่งนี้มีดังนี้
1. องค์ปราสาท
ตั้งบนฐานศิลาแลงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 3.04 เมตร มี 3 องค์ ปราสาทกลางสูง 13 เมตร ส่วนสององค์ที่ขนาบเหนือใต้ สูง 15 เมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมยอดทรงเรียวแหลม ก่อด้วยอิฐสอปูน ลักษณะคล้ายปราสาทศรีขรภูมิ แต่มีขนาดเล็กกว่าทำประตูหลอกไว้ทุกทิศ แต่ที่เข้าออกได้จริงๆ คือ ประตูที่อยู่ทางด้านตะวันออกของปราสาทองค์กลางเท่านั้นกรอบและเสาประตูทำด้วยหินทราย ทับหลังปราสาทองค์กลางจำหลักเป็นภาพพระอิศวรและพระนางปรารพตี (อุมา)ทรงโคศุภราช (นนทิ) ทับหลังปราสาทด้านทิศใต้ จำหลักเป็นภาพเทวดา และอสูรกวนเกษียรสมุทร แต่ภาพถูกทำลายและลบเลือนไปอย่างน่าเสียดาย หน้าประตูปราสาทองค์ทิศเหนือและทิศใต้เคยมีพระพุทธรูปหินทราย ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง
2. กำแพงแก้ว
เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 27 เมตร ยาว 29 เมตร ก่อด้วยศิลาแลงร้อมรอบ สูงประมาณ 1.50 เมตร มีประตูเข้าได้ 2 ทางคือทางด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก ปัจจุบันกำแพงแก้วได้พังลงมาโดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกแทบจะไม่เหลือ นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างอุโบสถปิดบังภูมิทัศน์ ซึ่งทำให้บดบังแสงจันทร์ และแสงอาทิตย์ที่จะส่องเข้าไปกระทบองค์สิวลึงก์ ตามศรัทธาความเชื่อของศาสนาฮินดู
3.สระน้ำ หรือ บาราย
จากบริเวณปราสาทไปทางทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตร จะมีสระน้ำขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 200x400 เมตร มีน้ำขังตลอดปีคันขอบสระมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นโดยรอบนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า บริเวณดังกล่าวน่าจะเคยเป็นชุมชนโบราณมาก่อน นอกจากจะมีคูน้ำล้อมรอบบริเวณเนินดินซึ่งเป็นสถานที่สร้างปราสาทแล้วยังมีการขุดพบหม้อ ไห โบราณ คนโฑ กระปุกน้ำหอม ลูกปัดและเครื่องประดับ
ตลอดจนเครื่องสำริดอื่นๆเป็นจำนวนมากปราสาทบ้านโนนธาตุ สันนิษฐานว่าองค์ปราสาทน่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้เพราะโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมแตกต่างไปจากศิลปะเขมรโบราณทั่วๆไป ซึ่งเป็นปรางค์และยอดบนสุดเป็นบัวศิลาจำหลัก แต่ชั้นพักขององค์ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะทรงข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นศิลปะสุโขทัยมากกว่าจะเป็นศิลปะลาวเพราะศิลปะลาวส่วนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมไม่มีลวดลายประดับมากนัก แต่ศิลปะดั้งเดิมแบบเขมรก็ยังหลงเหลือปรากฏอยู่ คือฐานศิลาแลง กำแพงแก้วและทับหลังที่จำหลักเป็นภาพในเรื่องรามายณะ น่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งเป็นศาสนาแบบฮินดู ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นพุทธสถานดังที่ปรากฏในปัจจุบัน