2 ช่องทางและวิธีการเดินทาง แผนที่ ภูมิอากาศ เพชรบุรี
ช่องทางและวิธีการเดินทาง จังหวัดเพชรบุรี
การติดต่อคมนาคมของจังหวัด
จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางคมนาคม เชื่อมต่อกับภาคใต้และภาคต่าง ๆ ของประเทศ การเดินทางเข้าสู่จังหวัดได้หลายทาง
ทางรถยนต์
โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ห่างจากกรุงเทพฯ ระยะทาง 166 กม.หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35(ธนบุรี-ปากท่อ) ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร
การเดินทางระหว่างจังหวัดเพชรบุรีกับจังหวัดอื่น ๆ โดยรถโดยสารประจำทางสามารถได้สะดวก เพราะรถโดยสารประจำทางสายใต้ ไป-กลับ กรุงเทพฯ ทุกสายจะต้องผ่านและแวะจอดที่จังหวัดเพชรบุรี และนอกจากนั้นยังมีการให้บริการเดินรถจากสถานีขนส่งสายใต้จากกรุงเทพฯถึงเพชรบุรีเป็นประจำทุกวัน ซึ่งมีรถปรับอากาศ ป.1 และ ป.2 วันละหลายเที่ยว จึงเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด
เส้นทางนครปฐม - ราชบุรี - เพชรบุรีใช้ ถ.บรมราชชนนี หรือถนนคู่ขนานลอยฟ้า จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ผ่านเขตตลิ่งชัน แยกพุทธมณฑลสาย 2 แยกพุทธมณฑลสาย 4 จนไปบรรจบกับ ถ.เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ซึ่งตรงมาจากท่าพระ บางแค หนองแขม อ้อมน้อย จนถึง อ.นครชัยศรี จากนั้น มุ่งตรงผ่าน จ.นครปฐม จ.ราชบุรี และเข้าสู่ จ.เพชรบุรี รวมระยะทาง จนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 166 กม.
เส้นทางสมุทรสาคร - สมุทรสงคราม - เพชรบุรีใช้ ถ.พระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) ซึ่งเริ่มต้นจากทางด่วนเฉลิมมหานคร เชิงสะพานพระราม 9 ผ่านเขตบางมด ภาษีเจริญ หัวกระบือ เอกชัย จนเข้าเขต จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จนบรรจบกับ ถ.เพชรเกษม ที่บริเวณแยกวังมะนาว เข้าสู่ จ.เพชรบุรี รวมระยะทาง จนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ประมาณ 121 กม.
สำหรับผู้จะเดินทางไปหาดชะอำ ถ้าใช้ ถ.เพชรเกษม โดยไม่เข้าตัวเมืองเพชรบุรี อาจเดินทางถึงที่หมายได้เร็วก็จริง แต่ถ้าใช้เส้นทางสาย 3177 ไปทางหาดเจ้าสำราญ - หาดปึกเตียน เส้นทางจะผ่านทุ่งนา และเลียบชายทะเล ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม
ทางโดยรถประจำทาง
รถโดยสารประจำทางมีทั้งรถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถธรรมดา ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ ถ.บรมราชชนนี รถไปเพชรบุรีนั้น มีสองเส้นทาง คือ
สายใหม่ หมายถึงรถที่วิ่งเส้นทางสมุทรสาคร - สมุทรสงคราม - เพชรบุรี สายใหม่จะใกล้กว่า เป็นที่นิยมของคนเมืองเพชรบุรี เป็นเส้นทางเดินรถ ปอ.1
สายเก่า หมายถึงรถที่วิ่งเส้นทาง นครปฐม - ราชบุรี - เพชรบุรี ระยะทางไกลกว่าสายใหม่ เป็นเส้นทางเดินรถ ปอ.2 และรถธรรมดา
รถปรับอากาศ จอดที่สถานีรถปรับอากาศเพชรบุรี ติดกับตลาดโต้รุ่ง เยื้องที่ทำการเทศบาลเมืองเพชรบุรี ตรงจุดบรรจบของ ถ.รถไฟ กับ ถ.ดำเนินเกษม
รถโดยสารธรรมดา ใช้เส้นทางสายเก่า (ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านราชบุรี) และไม่เข้าตัวเมืองเพชรบุรี โดยไปจอดที่สถานีขนส่งข้างวัดถ้ำแก้ว ใกล้กับสถานีเคเบิ้ลคาร์ ด้านหลังเขาวัง (แต่รถโดยสารธรรมดานี้ไม่เป็นที่นิยมนัก เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก ยังไม่รับรอง และมีผู้โดยสารร้องเรียนเรื่องการบริการอยู่เสมอ ๆ)
รถโดยสารไปชะอำ มีเฉพาะรถปรับอากาศชั้น 1 ไปจอดที่สถานีขนส่งชะอำ ถ.ร่วมจิตต์ หรือ ถนนเลียบชายหาด
นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางที่ลงใต้ได้ทุกจังหวัด หากจะไปยังตัวเมืองเพชรบุรี ก็ลงรถที่สถานีขนส่ง ข้างวัดถ้ำแก้ว ถ้าไปชะอำ รถจะจอดที่ปั๊มเชลล์ ก่อนถึงสี่แยกชะอำ หรือหากต้องการลงระหว่างทาง ก็สามารถลงได้ ตามสี่แยกไฟแดงใหญ่ๆ บน ถ.เพชรเกษม
รถโดยสารทุกประเภท ไม่รับจองตั๋วล่วงหน้าทางโทรศัพท์ นอกจากไปชำระเงินสดที่สถานีเท่านั้น
ถ้าต้องการความสะดวก รวดเร็ว สามารถเลือกนั่งรถตู้โดยสารได้ด้วย โดยเป็นรถตู้สายกรุงเทพฯ - หัวหิน ในกรุงเทพฯ รถจอดอยู่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้า รพ.ราชวิถี รถจะส่งผู้โดยสารลงสามจุด คือ ที่หน้าบิ๊กซี เพชรบุรี สี่แยกชะอำ และที่หัวหิน ขากลับ เข้ากรุงเทพฯ สามารถดักรอที่จุดต่างๆ เหล่านี้ได้
หมายเหตุ สายเก่าผ่าน จ.นครปฐม และราชบุรี ส่วนสายใหม่ผ่าน จ.สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
ทางรถไฟ
มีขบวนรถขึ้น-ล่องผ่านจังหวัดเพชรบุรีวันละประมาณ 24 ขบวน ด้วยระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ สถานีรถไฟที่สำคัญในเขตจังหวัดเพชรบุรี คือ สถานีเขาย้อย สถานีเพชรบุรี สถานีชะอำ
สำหรับรถไฟ มีทั้งรถธรรมดา รถเร็ว รถด่วน ฯลฯ การเที่ยวทางรถไฟต้องใช้ระยะเวลาเดินทางเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ แต่ทัศนียภาพสองข้างทาง ก็ให้บรรยากาศ และความเพลิดเพลิน ในอีกรูปแบบที่ต่างไปจากการเดินทางโดยรถยนต์ นอกจากนี้ รฟท. ยังให้บริการนำเที่ยว เมืองเพชร โดยใช้เวลา 1 วันด้วย ค่าโดยสารรถไฟ มีสองส่วน คือ ค่าธรรมเนียมรถไฟ ซึ่งจ่ายตามประเภทรถ และค่าโดยสารซึ่งจ่ายตามชั้นที่นั่ง
นำเที่ยวเมืองเพชร โดย รฟท.
หากต้องการท่องเที่ยวแบบประหยัดเวลา สะดวกสบาย และปลอดภัย รฟท. ได้จัดนำเที่ยวแบบพิเศษ ไปเช้ากลับเย็น สู่ จ.เพชรบุรี ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดราชการ โดยขบวนรถจะออกจากสถานีหัวลำโพง เวลา 06.30 น. หยุดนมัสการพระปฐมเจดีย์ ที่นครปฐม เมื่อถึงสถานีเพชรบุรี มัคคุเทศน์ จะนำชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี แวะซื้อของฝากจากเมืองเพชร จากนั้นมีบริการอาหารกลางวัน ช่วงบ่ายคลายร้อน ด้วยการเล่นน้ำที่หาดชะอำ แล้วเที่ยวชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นการปิดท้ายรายการ รถไฟจะออกจากสถานีชะอำ กลับถึง กรุงเทพฯ ประมาณ 20.00 น. สำรองที่นั่ง ได้ที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง โทร. 02-225-6964 หรือ 02-225-0300 ต่อ 5217
อัตราค่าบริการ
รถธรรมดา ผู้ใหญ่ 580 บาท เด็ก 480 บาท
รถปรับอากาศ ผู้ใหญ่ 680 บาท เด็ก 580 บาท
ทางอากาศ
มีท่าอากาศยานหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากอำเภอชะอำ และอำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ด้วยระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร และ 60 กิโลเมตร ตามลำดับ
ทางน้ำ
ด้วยเรือเดินทะเลจะทำให้สามารถติดต่อกับชายฝั่งทะเลตะวันออก เช่น พัทยาและชลบุรีได้ คาดว่าในอนาคตอันใกล้จะมีบริษัทเอกชนลงทุนในกิจการดังกล่าวเช่นนี้ จะทำให้จังหวัดเพชรบุรีเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญอย่างยิ่งในภาคตะวันออก
การเดินทางภายในตัวเมือง
การเดินทางในตัวเมืองเพชรบุรีค่อนข้างสะดวกสบาย มีรถหลายประเภท ให้เลือกใช้บริการ ดังนี้
รถสี่ล้อเล็ก ชาวเมืองเพชร เรียกว่า "รถเล้ง" มีวิ่งบริการอยู่ทั่วไป จะจอดรอผู้โดยสารอยู่ตามหน้าสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ ตลาด นักท่องเที่ยวควรถามคนขับก่อนขึ้นรถ ถึงเส้นทางที่รถจะผ่าน และจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไป รวมทั้งค่าโดยสาร อัตราค่าโดยสาร อย่างต่ำคนละ 5 บาท ราคาเหมารวม พาไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองประมาณ 200-300 บาท
สามล้อถีบ มีบริการอยู่ทั่วไป จอดรอผู้โดยสารอยู่ตามจุดต่างๆ เช่นเดียวกับรถเล้ง รถหนึ่งคัน นั่งได้สองคน อัตราค่าโดยสาร ในระยะทางสั้นๆ (ประมาณ 1-2 กม.) คนละ 15 บาท ราคาเหมารวมพาไปตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ ประมาณ สี่ห้าแห่ง 100 บาท
มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีวิ่งบริการในเมืองเพชรบุรี อยู่มากมายเช่นเดียวกัน อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 2 กม. คนละ 15 บาท มีบริการตั้งแต่ 06.00 - 23.00 น.
การเดินทางไปเที่ยวต่างอำเภอ
รถสองแถว คิวรถสองแถวไปต่างอำเภอจอดกระจายอยู่ ในบริเวณตลาดเพชรบุรี ค่ารถประมาณ 10-20 บาท รถบางสายมีเวลาออกไม่แน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวันที่มีผู้โดยสารน้อย
รถแท็กซี่ป้ายดำ เป็นรถเก๋ง แต่ไม่มีสี หรือมีป้ายบอกชัดเจนเหมือนแท็กซี่ในกรุงเทพฯ จึงสังเกตได้ยาก รถพวกนี้จะจอดอยู่ตามคิว และมีคนคอยร้องเรียกผู้โดยสาร ต้องมีผู้โดยสารครบหกคน รถจึงออก ข้อดีของรถชนิดนี้คือ ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่ารถสองแถว และสามารถเหมา ไปที่ต่างๆ ได้
รถเช่า ที่บริเวณชายหาดชะอำ มีรถมอเตอร์ไซค์ และรถจักยานให้เช่า ต้องวางบัตรประชาชน ไว้เป็นหลักฐาน และจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า มีตัวอย่างราคา ดังนี้
มอเตอร์ไซค์ 120 บาท / ชม. และ 300 บาท / วัน
จักรยาน 10 บาท / ชม. และ 50 บาท / วัน
ระยะทางจากตัวเมืองไปอำเภอต่าง ๆ และจังหวัดใกล้เคียง
จากตัวเมือง มีรถโดยสารไปยังอำเภอต่าง ๆ โดยมีระยะทางดังนี้
อำเภอท่ายาง | 18 กิโลเมตร |
อำเภอชะอำ | 45 กิโลเมตร |
อำเภอบ้านแหลม | 12 กิโลเมตร |
อำเภอบ้านลาด | 8 กิโลเมตร |
อำเภอเขาย้อย | 23 กิโลเมตร |
อำเภอหนองหญ้าปล้อง | 34 กิโลเมตร |
อำเภอแก่งกระจาน | 57 กิโลเมตร |
นอกจากนี้จากตัวเมืองเพชรบุรียังมีรถโดยสารไปหัวหิน ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี ระยะทางเป็นดังนี้
เพชรบุรี-หัวหิน | 66 กิโลเมตร |
เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ | 158 กิโลเมตร |
เพชรบุรี-ราชบุรี | 54 กิโลเมตร |
แผนที่ จังหวัดเพชรบุรี
ภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ทางด้านทิศตะวันตกในเขตอำเภอแก่งกระจานและอำเภอหนองหญ้าปล้องมีลักษณะเป็นที่ราบสูงและภูเขาสูงชัน แล้วค่อย ๆ ลาดต่ำลงมาทางทิศตะวันออก เกิดเป็นสันปันน้ำ แบ่งน้ำส่วนหนึ่งให้ไหลลงสู่ประเทศพม่า และอีกส่วนหนึ่งไหลมาทางทิศตะวันออกเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี สภาพเช่นนี้ทำให้ทางทิศตะวันตกของจังหวัดเพชรบุรีอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้และแร่ธาตุ แต่มีประชากรอาศัยอยู่น้อย เนื่องจากเป็นแดนกันดาร จะมีเพียงชาวกะเหรี่ยงและกะหร่างที่อพยพข้ามแดนมาจากพม่าอาศัยเท่านั้น
สภาพพื้นที่ทางด้านทิศตะวันออกเป็นที่ราบกว้างใหญ่ประกอบด้วย ที่ราบลุ่ม แม่น้ำอยู่ตอนกลางของจังหวัด มีพื้นที่ตั้งแต่เขตอำเภอบ้านลาด อำเภอท่ายาง บางส่วนของอำเภอหนองหญ้าปล้อง และอำเภอชะอำ บริเวณนี้นับเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำที่สมบูรณ์ จึงมีประชากรอยู่กันหนาแน่น สำหรับชายฝั่งทะเลเริ่มตั้งแต่ปากอ่าวบางตะบูนจนถึงเขตอำเภอชะอำ จัดเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัด ทั้งในด้านการประมงและการท่องเที่ยว
แผนที่จังหวัด จังหวัดเพชรบุรี นิววิวทัวร์
แผนที่ตัวเมือง จังหวัดเพชรบุรี นิววิวทัวร์
แผนที่ท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี นิววิวทัวร์
ภูมิอากาศ จังหวัดเพชรบุรี
ภูมิอากาศ
สภาพภูมิอากาศ จังหวัดเพชรบุรีอยู่ติดกับอ่าวไทยจึงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในฤดูฝน ซึ่งมีผลทำให้ฝนตกชุก และอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นในช่วงดังกล่าว
จังหวัดเพชรบุรีอยู่ติดกับอ่าวไทยจึงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในฤดูฝน และอิทธิพลจากลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากที่สุด คือ ช่วงเดือนธันวาคม – เมษายน แบ่งฤดูกาลออกเป็น 3 ฤดูดังนี้
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ - กลางเดือนพฤษภาคม
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม - กลางเดือนตุลาคม
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม – กลางเดือนกุมภาพันธ์
ในปี 2546 อุณหภูมิเฉลี่ยวันสูงสุด 36.5 องศาเซลเซียส ( วันที่ 5 สิงหาคม 2546) วันต่ำสุด 16.5 องศาเซลเซียส ( วันที่ 14 มกราคม 2546) อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 28.17 องศาเซลเซียส
จากสถิติปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ปี 2537 - 2546 เฉลี่ยวันฝนตกประมาณปีละ 102 วัน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในรอบ 10 ปี 957.02 มิลลิเมตรต่อปี มีฝนตกมากในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม