ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา สมุทรสงคราม

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา

ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00-20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้า พายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาด หาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้ค่าบริการคนละ 60-80 บาท

 

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

"อัมพวา" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว มะละกอ กล้วย ส้มโอ ฯลฯ สารพัดผลไม้รอให้เรามาชื่นชม โดยเราสามารถหลบร้อนไปลงเรือล่องคลองชมสวน สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมผลไม้ต่างๆ หรือซื้อกลับไปกินบ้านให้ชื่นฉ่ำใจก็ได้ไม่มีใครว่า หรือจะเลือกปั่นจักรยานเช่าถีบไปคู่ขนานกับท้องร่อง ก็ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง

 

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

นอกจากการเที่ยวชมวิถีธรรมชาติแล้ว การท่องเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างเช่นการไหว้พระ ทำบุญ ที่ "วัดแว่นจันทร์" ซึ่งมีโบสถ์ไม้สักอายุกว่าร้อยปี ซึ่งเพิ่งผ่านการบูรณะมา แลดูสดใหม่ แต่ว่ากันว่า รูปลักษณ์ยังคงสถาปัตย์เก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์โน่นทีเดียว ต่อกันที่ "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" มีกุฎีเป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ เขียนลายรดน้ำปิดทองทั้งหลัง โดยพระมเหสีในรัชกาลที่ 1 เป็นผู้สร้างถวายเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ตัวกุฎีแต่เดิมมีถึง 3 หลังแต่ถูกน้ำเซาะหายไปเหลือเพียงหลังเดียว ปัจจุบันภายในจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องใช้โบราณที่ชาวบ้านเอามาถวายวัด นั่นเอง

 

และไม่ควรพลาดชมอันซีนที่ "วัดบางกุ้ง" ตั้งอยู่บนถนนราชบุรี - วัดโบสถ์ อำเภอบางคนที ซึ่งเป็นบริเวณค่ายบางกุ้ง เดิมเคยเป็นค่ายทหารเรือ สมัยพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวของวีรกรรมชาวแม่กลอง ...ใน บริเวณวัดมีกำแพงจำลองของค่ายอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สระน้ำโบราณอายุประมาณ 400 ปี และพบสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งอย่าง ได้แก่ โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอารามเก่าแก่ คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ราวปี พ.ศ. 2250-2300 ซึ่งมีต้นไม้ 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง ค้ำยันแผ่กิ่งก้านคลุมโบสถ์ไว้จนไม่เห็นรูปทรง ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี (หลวงพ่อดำ) ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ปู นปั้นขนาดใหญ่ สวยงามและอัศจรรย์ไม่น้อยเลย

 

นอกจากนี้ เรายังสามารถนั่งเรือข้ามแม่กลองสู่ท่าเทียบเรือบริเวณ "อุทยาน ร. 2" หรือ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งภายในจัดแสดงศิลปวัตถุและความเป็นอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ทั้งยังมีโรงละครกลางแจ้ง และสวนพฤกษชาติ ซึ่งเป็นสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีนานาชนิดอีกด้วย

 

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

ตกเย็นการท่องเที่ยวยังไม่จบสิ้น และเป็นไฮไลต์ของการเยือนอัมพวาเลยทีเดียว นั่นคือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่"ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 - 20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวานต่างๆ และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดู หิงห้อยในยามค่ำคืนได้

 

หรือถ้าหากอยากนั่งดินเนอร์สบายๆ รับสายลมเย็น ...ร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ริมแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งมีอยู่มากมาย ก็รอให้คุณมาลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ รสชาติแนะนำได้เลยทีเดียว

 

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

หลังจากชิมอาหารและท่องตลาดน้ำยามเย็นกันจนอิ่มท้องแล้ว ถ้าใครไม่หมดแรงไปซะก่อน ต้องต่อด้วยทริปลงเรือล่องแม่กลองชมหิ่งห้อย ซึ่งเป็นโปรแกรมปิดท้ายที่ไม่ควรพลาด เพราะตลอดช่วงระยะ 4 - 5 กิโลเมตรเลียบลำน้ำแม่กลอง กับบรรยากาศที่เงียบและมืดพอสมควร เราก็จะได้เห็นหิ่งห้อยที่กระจุกตัวอยู่รวมกันเป็นดงใต้ต้นลำพู ส่องแสงกระพริบวิบวับให้เราได้ชื่นชมกัน ราวกับไฟคริสต์มาสไม่มีผิด...ซึ่งการใช้เรือยนต์ ก็ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์ของลำน้ำแม่กลองไม่น้อย อันอาจจะทำให้หิ่งห้อยลดจำนวนลง จึงขอแนะนำว่าควรใช้เรือพาย พายไปเงียบๆ กับตะเกียงส่องทาง หรือนั่งชมหิ่งห้อยอยู่ที่ท่าน้ำหน้าโฮมสเตย์ที่พัก ก็ได้กลิ่นอายความโรแมนติกดีทีเดียว อ้อขอแนะนำเกี่ยวกับวิธีการถ่ายภาพหิ้งห้อยนิดนึงนะครับ เราไม่ควรใช้แฟลซ เพราะว่าจะทำให้หิ้งห้อยตื่นตกใจแล้วจะบินหายไปหมด

 

การ ชมหิ่งห้อยต้องใช้เวลาช่วงหัวค่ำจนถึงกลางดึก ซึ่งหากมีเวลา และไม่รีบเร่งมากนัก ก็ควรพักที่อัมพวาสักหนึ่งคืน ซึ่งที่พักไม่ว่าจะเป็นแบบรีสอร์ท หรือแบบโฮมสเตย์ ก็มีให้เลือกมากมาย เลยนะคะ มีตั้งแต่ราคาคืนละ 100 บาท ไปจนถึงแบบอลังการคืนละ 7,000 - 8,000 บาท ก็มีครับ ขึ้นอยู่กับว่าชอบแบบชาวบ้านๆ หรือหรูหราหน่อยนั่นเอง แถมรุ่งเช้าเรายังสามารถตื่นมารับแสงอาทิตย์ของวันใหม่ และทำบุญตักบาตรพระ ซึ่งพายเรือมาบิณฑบาตรถึงท่าน้ำที่พักกันเลยครับ ได้บรรยากาศวิถีชิวิตริมน้ำแบบไทยโบราณสุดๆ แถมยังได้บุญอีกด้วย เที่ยวสนุก...ผ่อนคลาย.. .ปลดปล่อยความวุ่นวายจากเมืองกรุง มาสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายสไตล์ชาวอัมพวา... รับรองว่าคุณต้องหลงเสน่ห์อัมพวาเป็นได้

 

tour-floating-amphawa-evening-samut-songkhram

 

การเดินทาง

รถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) ถึง กม.ที่ 63 เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ผ่านตัวเมือง จากนั้นเข้าทางหลวง 325 สมุทรสงคราม-บางแพ กม.ที่ 36-37 มาทางแยกซ้ายเข้าไปทางที่จะไปอุทยานฯ ร.2 ตลาดน้ำจะอยู่ใกล้กับอุทยานฯ ร.2

 

รถโดยสารประจำทาง นั่งรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ - ราชบุรี - ดำเนินสะดวก มาลงที่ตลาดอัมพวา