7 ประวัติ ตราด
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
| ตราประจำจังหวัด | รูปเรือใบแล่นในทะเลกับโป๊ะของชาวประมง เบื้องหลัง |
| --- | โทร. 0 3842 9371เป็นเกาะช้าง หมายถึง จังหวัดตราดมีเกาะเป็นจำนวนมาก |
| -- | และเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปคือเกาะช้าง |
| --- | การที่มีพื้นที่ติดกับทะเล ราษฎรจึงยึดถือการประมงเป็น |
| -- | อาชีพหลักมาแต่โบราณ (เดิมจังหวัดตราดใช้ตราประจำ |
| -- | จังหวัดเป็นรูปเรือรบหลวงตราด) |
| ดอกไม้ประจำจังหวัด | โทร. 0-3821-620ดอกกฤษณา (Eagle Wood) |
| ต้นไม้ประจำจังหวัด | หูกวาง (Bengal Almond) |
| คำขวัญประจำจังหวัด | เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน |
| --- | หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา |
ประวัติความเป็นมา
ตราดเป็นจังหวัดชายแดนเล็ก ๆ สุดด้านชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ต่อจากจังหวัดจันทบุรี สันนิษฐานกันว่า "ตราด"เพี้ยนมาจากคำว่า "กราด" ซึ่งเป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ใช้ทำไม้กวาด และรอบเมืองตราดในสมัยก่อนนั้นก็มีต้น "กราด" ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รัชสมัยพระนเรศวรมหาราช "ตราด"
ชื่อเมืองตราดหรือเมืองทุ่งใหญ่ปรากฏในทำเนียบหัวเมืองสมัยพระเจ้าปราสาททอง
(พ.ศ.๒๑๗๘) ว่าเป็นหัวเมืองชายทะเลสังกัดฝ่ายการต่างประเทศซึ่งเกี่ยวข้องกับด้านการคลัง นอกจากเป็นแหล่งสินค้าแล้ว ตราดยังเป็นหนึ่งในเมืองท่าชายทะเล ที่มีชัยภูมิเหมาะกับการแวะจอดเรือ เพื่อขนถ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เติมเสบียงอาหารน้ำจืด บริเวณอ่าวเมืองตราดจึงเป็นที่ตั้งชุมชนพ่อค้าชาวจีนที่เดินทางมาค้าขาย ครั้งเมื่อสงครามกู้เอกราชสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเลือกตราดเป็นเมืองหน้าด่านกันชนทำหน้าที่ส่งเสบียงอาหารก่อนเคลื่อนกองทัพเรือออกจากจันทบุรียกไปขับไล่พม่าเพื่อกอบกู้เอกราชคืนสู่ชาติไทย
ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ พ.ศ. ๒๓๒๕ สมัยรัชกาลที่ ๑ เมืองตราดยังขึ้นกับกรมท่าแสดงให้เห็นว่าเมืองตราดยังคงสังกัดอยู่ในฝ่ายกิจการต่างประเทศและการคลัง ในฐานะหัวเมืองชายฝั่งทะเลและเป็นเมืองท่าสำคัญแห่งหนึ่งเช่นเดียวกับในสมัยอยุธยา ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ ไทยทำศึกกับเจ้าอนุวงศ์ แห่งเมืองเวียงจันทน์ซึ่งต่อมาหันไปสวามิภักดิ์กับญวน ไทยกับญวนผิดใจกันจนต้องทำสงครามในปี พ.ศ.๒๓๗๑ เมืองตราดมีความสำคัญเป็นแหล่งกำลังพลและเสบียงอาหาร มีการตั้งป้อมค่ายอยู่ที่บ้านแหลมหิน ปากอ่าวเมืองตราด
ยุคล่าอาณานิคมของตะวันตก
สมัยรัชกาลที่ ๕ ฝรั่งเศสได้ส่งกองทัพเรือเข้ายึดจันทบุรี ปี ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) และคืนให้ไทยในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ แต่ได้บังคับให้ไทยต้องยอมมอบเมืองตราดให้อยู่ในการปกครองของฝรั่งเศส ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลเห็นว่าตราด มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และพลเมืองส่วนใหญ่เป็นคนไทย พระองค์จึงดำเนินวิเทโศบายทางด้านการต่างประเทศจนฝรั่งเศสยินยอมทำสัญญายกเมืองตราดคืนให้กับไทยเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ โดยแลกเปลี่ยนกับพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ชาวตราดจึงถือเอา วันที่ ๒๓ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญที่ชาวตราดและคนไทยจะได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระพุทธเจ้าหลวง ในการปกป้องเอกราชอธิปไตยของไทยและนำเมืองตราดคืนไว้ให้ลูกหลาน
สมัยสงครามอินโดจีน
ในช่วงสงครามอินโดจีน (พ.ศ. ๒๔๘๓ – ๒๔๘๔) ฝรั่งเศสพยายามเข้ายึดเมืองตราดอีกครั้งเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๔ โดยส่งกองเรือรบบุกเข้าน่านน้ำทะเลตราด บริเวณเกาะช้าง กองเรือรบราชนาวีไทยได้เข้าต่อสู้ขัดขวาง อย่างกล้าหาญ และสามารถขับไล่ข้าศึกให้ล่าถอยไปได้ซึ่งเป็นวีรกรรมของทหารเรือไทยที่รู้จักกันในนาม “ยุทธนาวีเกาะช้าง”
จังหวัดตราดเป็นจังหวัดชายแดนสุดเขตไทยด้านชายฝั่งตะวันออก มีรูปร่างลักษณะคล้ายหัวช้าง ตราดเป็นจังหวัดขนาดเล็กที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนภูมิประเทศที่สวยงาม รวมถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ
การปกครอง
ตราด เป็นจังหวัดชายแดนภาคตะวันออกของไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 315 กม. มีพื้นที่ 2,819 ตรกม. ตราดแบ่งการปกครองออกเป็น 5 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ กิ่งอำเภอเกาะช้าง และกิ่งอำเภอเกาะกูด
| ทิศเหนือ | ติดต่อกับจังหวัดจันทบุรี และราชอาณาจักรกัมพูชา |
| ทิศใต้ | ติดต่อกับอ่าวไทย |
| ทิศตะวันออก | ติดต่อกับราชอาณาจักรกัมพูชา มีทิวเขาบรรทัดเป็นเส้น |
| --- | กั้น เขตแดนตั้งแต่ตอนกลางของจังหวัด ลงมาตลอดด้าน |
| -- | ตะวันออก ระยะทางประมาณ 165 กม. |
| ทิศตะวันตก | ติดต่อกับจังหวัดจันทบุรีที่แม่น้ำเวฬุเป็นเส้นกั้นเขตแดน |
ลักษณะภูมิประเทศ
มีอาณาบริเวณทั้งที่เป็นแผ่นดินและพื้นน้ำประกอบด้วยเทือกเขาสูงอุดมด้วยป่าเบญจพรรณและป่าดิบทางด้านตะวันออก ส่วนบริเวณหมู่เกาะต่างๆทางด้านใต้มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงเช่นเดียวกัน ตอนเหนือเป็นที่ราบบริเวณภูเขา ตอนกลางเป็นที่ราบลุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์แล้วลาดลงเป็นที่ราบต่ำชายฝั่งทะเล สภาพของภูมิประเทศที่ปรากฏจึงแบ่งเป็น 4 ลักษณะ
1 ที่ราบบริเวณลุ่มน้ำได้แก่ บริเวณที่ราบตอนกลางและตะวันออกเหมาะสำหรับทำนาข้าวและปลูกผลไม้
2 ที่ราบบริเวณภูเขาได้แก่บริเวณที่ราบตอนบนและตอนกลาง บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างขวางมาก เนื่องจากมีภูเขากระจายอยู่ทั่วไปเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การทำสวนผลไม้ยางพาราและปลูกสับปะรด
3 ที่สูงบริเวณภูเขา ได้แก่บริเวณทางตอนกลางของอำเภอแหลมงอบและเขตติดต่ออำเภอเขาสมิง นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่เป็นเกาะต่างๆ ซึ่งส่วนมากมีสภาพเป็นพื้นที่ป่าไม้
4 ที่ราบต่ำชายฝั่งทะเล ได้แก่บริเวณฝั่งทะเลเกือบตลอดแนว บริเวณพื้นที่แห่งนี้เป็นป่าชายเลน อย่างหนาแน่นและยังเป็นสถานที่เลี้ยงสัตว์น้ำบางชนิดด้วย





คำยืนยันลูกค้า
คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - กรุ๊ปคณะคาทอลิก แห่งประเทศไทย แสวงบุญพนมเปญ เสียมเรียบ 34 ท่าน Part2
26506 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - Team Building นครนายก (มิยามะ) 25 ท่าน Part 3
14894 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - กรุ๊ปคุณนภาพร (มีนบุรีรับสร้างบ้าน) กิจกรรมกาญจนบุรี 3 วัน 40ท่าน Part 1
23837 Views