บ้านแสงอรุณ ประจวบคีรีขันธ์

บ้านแสงอรุณ

การเริ่มต้น

วัดฟาติมา ตั้งอยู่ที่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 354-355 ถนนเพชรเกษม อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรขันธ์
ในปี ค.ศ.1948 - 1952 คุณพ่อการ์โล กาเซตตา (Carlo Casetta ) เป็นคุณพ่อเจ้าวัดที่หัวหิน ท่านดูแลสัตบุรุษที่กระจัดกระจายในจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบฯ คุณพ่อบันทึกรายละเอียด เกี่ยวกับการเดินทางของท่านในสมุดหมายเหตุรายวันที่หัวหิน ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.1949 คุณพ่อการ์โล บันทึกไว้ว่า มีคริสตังบางคนมาจากวัดเพลง และบางนกแขวกมาแวะค้างคืน 1 คืนที่สถานีรถไฟหัวหิน (เนื่องจากขบวนรถไฟขบวนที่เขาโดยสารมาสิ้นสุดที่สถานีหัวหิน) รุ่งขึ้นพวกเขาเดินทางต่อไปที่อำเภอทับสะแก เพื่อไปจับจองทีดินในสถานที่ที่เรียกว่าทุ่งประดู่ (หนองพิกุล) ทับสะแก พวกเขาคือ นายสุภาพ (กี่ยู้) ยนปลัดยศ , นายคลี่ สุจริตรัตน์ , นายฟุุ้ง คชเสนีย์ และคนพุทธอีก 2 - 3 คน ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ.1949 พวกเขากลับมาแวะที่หัวหินอีกเขามีความปลื้มปิติยินดี ที่พวกเขาสามารถจับจองที่ดินได้คนละ 50 ไร่ ในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง ต้นเดือนธันวาคม ค.ศ.1949 นายกี่ยู้ ได้พาคณะอีกหลายพวกเพื่อไปจับจองที่ดิน (ระหว่างคนเหล่านี้มีครูเชิด เสรีพรพงศ์อยู่ด้วย)  

ในวันที่ 10 เดือนมกราคม ค.ศ.1950 ผู้บุกเบิกรุ่นแรกก็ได้มาอยู่ และจ้างคนกุยบุรี ถางป่าในราคาไร่ละ ฯ00 บาท (ถางป่าคนละประมาณ 10 ไร่ก่อน) ถึงคนละ 10 ไร่บ้าง 5 ไร่บ้าง และราวเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ในปีเดียวกัน พวกเขาเิ่ริ่มเพาะปลูก แต่พวกเขายังอาศัยอยู่รวมกัน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสัตว์ป่า รุ่นแรกที่มาบุกเบิกนี้มีประมาณ 17 ครอบครัว ที่ดินที่เขาได้จับจองตั้งอยู่ห่างจากของสถานีรถไฟทับสะแกทางทิศเหนือ ประมาณ 10 - 12 กิโลเมตร ตามเสันทางยุทธศาสตร์ 19 หรือถนนเพชรเกษมในปัจจุบัน แต่เดิมเสันทางสายนี้เป็นเหมือนทางเกวียนที่ทหารญี่ปุ่นทำไว้ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้ว ถนนสายนี้รกล้างมีแต่ร่องทางเกวียน ริมถนนทางซ้ายและทางขวาของทางเกวียนนี้มีแต่ป่าทึบ มีสัตว์ร้ายมากมาย เช่น งู , เสือ , หมี , เก้ง , กวาง , ค่าง และลิง ผู้ที่ไปจับจองและถางป่าูรู้ถึงอันตรายและความยากลำบากที่เขาจะต้องได้รับ ซึ่งเขาจะต้องอดทน เป็นเวลา 1 - 2 ปี เมื่อพวกเขาจะต้องเดินทางไปอำเภอ หรือไปขึ้นรถไฟ จะต้องเดินไป หรือไม่ก็ใช้จักรยานเป็นพาหนะ

โครงการของมิสซัง
ความคิดริเริ่มที่จะขยับขยายไปหาที่เปิดนิคมใหม่ทางภาคใต้ เนื่องมาจากการที่ผู้บริหารมิสซังราชบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อเปโตรเยลลิชี อุปสังฆราช และเข้าวัดแม่พระบังเกิดบางนกแขวก มีความห่วงใยถึงการครองชีพของครอบครัวคริสตังในเขตวัดใหญ่ ๆ ของสังฆมณฑล อาทิเช่น วัดบางนกแขวก วัดเพลง วัดโคกมดตะนอย ฯลฯ จำนวนครอบครัวในวัดเหล่านี้กำลังทวีจำนวนขึ้นทุกวัน เขตที่สำหรับทำมาหากินคับแคบไม่เพียงพอสำหรับ อนาคต อันที่จริงเคยมีครอบครัวบางครอบครัวจากวัดต่าง ๆ เริ่มอพยพไปทำมาหากินทางใต้นี้ มาหลายปีแล้ว เช่นที่นิคมสร้างตนเองขั้นกระได ที่ปราจีนบุรี ทับสะแก หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ และที่อื่น ๆ พวกเขาอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พระสงฆ์ ไม่สามารถดูแลเอาใจใส่ชีวิตคริสตังของพวกเขาอย่างดี

ในราวปี ค.ศ.1948 คุณพ่อเปโตรเยลลิชี อุปสังฆราขมิสซังราชบุีรี จึงเิ่ริ่มใฝ่ฝันที่จะหาที่ดินแห่งใหม่ ต้องเป็นที่ว่างมีบริเวณกว้างขนาดหลายพันไร่ และอยู่ในเสันทา้งคมนาคมที่ดีในอนาคต ได้อพยพครอบครัวคิรสตังให้ไปอยู่รวมกัน นอกจากมีที่ทำมาหากินแล้ว ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกันคุณพ่อยอบ การ์นินี ซึ่งเคยอยู่ที่บ้านเณรบางนกแขวกหลายปี

• ก่อนหน้า
• ต่อไป