รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

ภาพรวมในทางพุทธศาสนา อุบลราชธานี

ภาพรวมในทางพุทธศาสนา

จากเอกสารที่ปรากฏนับตั้งต่จังหวัดอุบลราชธานีได้เริ่มจัดงานแห่เทียนพรรษากระทั่งงานแห่เทียนพรรษาเป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและขยายสู่ระดับนานาชาติพบว่ามีอายุราวหนึ่งศตวรรษมาแล้ว กล่าวได่ว่า เทียนพรรษาและงานแห่เทียนพรรษานับเป็นสัญญะ ทีผูกพันกับชีวิตวัฒนธรรม ของชาวจังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับบัวสายหรือบัวอุบล อย่างไรก็ดีแม้การบอกเล่าเรื่องราวของเทียนพรรษาและงานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีจะปรากฏอยู่ในเอกสารจำนวนมาก หากแต่ยังมิได้มีการรวบรวมอย่างชัดเจนและสมบูรณ์ทั้งคดีความเชื่อและความเป็นมา

ประเพณีเข้าพรรษากับความเชื่อในพุทธศาสนา
วันเข้าพรรษาตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎก
เข้าพรรษาแปลว่า “พักฝน” ซึ่งหมายถึง การที่พระสงฆ์จะต้องอยู่ประจำวัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน เนื่องจากในสมัยพุทธกาลพระสงฆ์มีหน้าที่จาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทว่าในช่วงฤดูฝนการจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ จำเป็นต้องผ่านไร่นาที่ชาวบ้านปลูกกล้าเอาไว้ทำให้พระสงฆ์ต้องเหยียบกล้าของชาวบ้านเสียหาย และชาวบ้านได้กล่าวโทษพระสงฆ์ในพระวินัยปิฎกมหาวรรคภาค ๑ หมวด วัสสูปนายิกขันธกะ เลื่อนกาลฝน ได้ระบุถึงสาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติข้อห้ามมิให้พระสงฆ์ต้องจาริกในช่วงฤดูฝนไว้ว่า
“..ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ายังมิได้ทรงบัญญัติการจำพรรษาแก่ภิกษุทั้งหลายภิกษุเหล่านั้น เที่ยวจาริกไปตลอดฤดหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน คนทั้งหลายจึงเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้เที่ยวจาริกไปตลอดฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน เหยียบย่ำติณชาติอันเขียวสด เบียดเบียนอินทรีย์อย่าง ๑ ซึ่งมีชีวะยังสัตว์เล็กๆจำนวนมากให้ถึงความวอดวายเล่า ก็พวกปริพาชกอัญญเดียร์ถีย์เหล่านีเป็นผู้กล่าวธรรมอันต่ำทรามยังพักยังอาศัยอยู่ประจำตลอดฤดูฝน ภิกษุทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า..”

การกราบทูลของพระลงฆ์ถึงเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านต่อพระพุทธเจ้าทำให้พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระวินัยในเรื่องการจำพรรษาขึ้นในชั้นแรก ทรงบัญญัติให้วันเข้าพรรษามี ๒ ช่วงโดยช่วงแรกให้เริ่มต้นหลังจากวันอาสาฬหบูชาไปแล้ว ๒ วัน(คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘) เป็นวันเข้าพรรษาต้น (ปุริมิกา) และช่วงหลังให้ เริ่มต้นหลังจากวันอาสาฬหบูชาไปแล้ว ๑ วัน(คือวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙) เป็นวันเข้าพรรษาหลัง (ปัจฉิมิกา) ดังข้อความว่า
“...ดูก่อนภิกษุทั้งหลายวันเข้าพรรษานี้มี ๒ คือ ปุริมิกา วันเข้าพรรษาต้น ๑ ปัจฉิมิกา วันเข้าพรรษานี้มี ๑ เมื่อพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์อาสาฬหะล่วงไปแล้ว ๑ วัน พึงเข้าพรรษาหลัง...”

แม้ว่าพระพุทธเจ้าจะทรงกำหนดให้พระสงฆ์ต้องอยู่จำพรรษาในช่วงฤดูฝนแล้ว ทว่ามิได้ทรงกำหนดระยะเวลาที่พระสงฆ์จะ จำพรรษาด้วย จึงทำให้พระสงฆ์บางรูปลักลอบออกไปตามสถานที่ต่างๆ และ เดินเหยียบไร่นาของชาวบ้านเช่นเดิม ซึ่งพระพุทธเจ้าต้องทรงบัญญัติพระวินัยอีกครั้งว่า เมื่อพระสงฆ์อยู่จำพรรษาแล้วจะต้องอยู่ตลอด ๓ เดือนไม่ว่าจะเข้าพรรษาต้น หรือ เข้าพรรษาหลัง ก็ตาม ถ้าพระสงฆ์รูปใดจำพรรษาไม่ครบตามเวลาดังกล่าว หรือหลีกเลียงไม่ยอมจำพรรษา หรือไม่ยอมจำพรรษาในวันเข้าพรรษาจะต้องผิดวินัยอาบัติทุกกฏ
“...แล้วรับสั่งกับภิกษุทั้งหลาย ว่าดูก่อน ภิกษุทั้งหลายภิกษุจำพรรษาไม่อยู่ตลอด ๓ เดือนต้น หรือ ๓ เดือนหลังไม่พึงหลีกไปสูจาริก รูปใดหลีกไปต้องอาบัติทุกกฏ

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุจะไม่จำพรรษาไม่ได้ รูปใดไม่จำพรรษาต้องอาบัติทุกกฏ

...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ประสงค์จะจำพรรษาในวันเข้าพรรษา ไม่พึงแกล้งล่วงเลยอาวาสไปเสีย รูปใดล่วงเลยเสียต้องอาบัติทุกกฎ...”

แรกเริ่มของวันเข้าพรรษาในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้มี ๒ ช่วงนั้น ในเวลาต่อมา พระเจ้าพิมพิสาร เจ้าเมืองมคธ ได้ทรงขอให้พระพุทธเจ้าเลื่อนวันเข้าพรรษามาเป็น เดือน ๘ ซึ่งทรงเห็นชอบให้เป็นไปตามนั้น เนื่องจากทรงเห็นว่าการกำหนดให้มีวันเข้าพรรษาเพียงวันเดียวไม่ส่งผลกระทบต่อพระสงฆ์ที่จะจำพรรษาอยู่แล้ว

“...ก็โดยสมัยนั้นแล พระเจ้าพิมพิสาร จอมเสนามาคธราช มีพระราชประสงค์จะทรงเลื่อนกาลฝนออกไปจึงทรง ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลายว่า ถ้ากระไรขอพระคุณเจ้าทั้งหลายพึงจำพรรษาในชุณหปักษ์อันจะมาถึง ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้คล้อยตามพระเจ้าแผนดิน... ”

การที่พระพุทธเจ้าโปรดให้เลื่อนวันเข้าพรรษาใช้วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ เป็น วันเข้าพรรษาตามคำกราบทูลของพระเจ้าพิมพิสารนั้น ยังมีความเชื่ออีกว่าพระสงฆ์ที่จำพรรษาในพรรษาต้นจะได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ ตลอด ๕ เดือน หลังจากออกพรรษาแล้ว ได้แก่
- การเที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา
- จาริกไปโดยไม่ต้องเอาจีวรไปครบลำรับ
- ฉันคณโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้
- เก็บอติเรกจีวรได้ตามปรารถนา
- ได้รับสิทธิครองจีวรที่เกิดขึ้นในที่นั้นๆและได้รับสิทธิกรานกฐิน

ด้วยเหตุนี้ ในเวลาต่อมาจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการยึดถือวันเข้าพรรษาเป็น วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ เพียงวันเดียว ซึ่งมักจะเรียกว่า วันปุริมพรรษา นั่นเอง อย่างไรก็ดีในการจำพรรษาของพระสงฆ์นั้น ข้อปฏิบัติที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ พระสงฆ์จะ ต้องอธิษฐานใจหยุดพักอยู่ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ ไม่จำเป็นต้องเป็นวัด โดยห้ามมิให้พักค้างคืน ณ ที่อื่น ทั้งนี้หากมีความจำเป็นอื่นๆ เช่น มีกิจนิมนต์ ณ ที่แห่งใด หรือกิจของสงฆ์ อาทิ พระอุปัชฌาย์อาพาธโดยไม่สามารถกลับมาพำนักยังที่ซึ่งพระสงฆ์รูปนั้นจำพรรษาอยู่ได้ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พักแรม ณ ที่อื่นได้ไม่เกิน ๗ วัน หากเกินกำหนดนี้ให้ถือว่า ขาดพรรษาและถือว่า ผิดพระวินัยตามพุทธบัญญัติอีกด้วย

เห็นได้ชัดเจนว่าพระสงฆ์เริ่มมีการจำพรรษามาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ายังดำรงพระชนม์อยู่ หรือ ประมาณ ๒๕๐๐ ปีล่วงมาแล้ว การที่พระสงฆ์อยู่จำพรรษา ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง เป็นเวลานานๆ ในช่วงฤดูฝน ซึ่งจีวรเปียกน้ำฝน ทำให้ชาวบ้านดำริการถวายผ้าจำนำพรรษาหรือผ้าอาบน้ำฝนขึ้น เพื่อให้พระสงฆ์ได้ผลัดเปลี่ยน และถวายส่งของอื่นๆที่จำเป็นแด่พระสงฆ์ ในช่วงเข้าพรรษา อาทิ เทียนพรรษา เป็นต้น นอกจากนี้ การที่พระสงฆ์อยู่จำพรรษาเป็นเวลานาน ทำให้มีเวลาสอนหนังสือและสอนธรรมะ แก่ชาวบ้านซึ่งนิยมให้บุตรหลานของตนบรรพชาเป็นสามเณรและอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ “เพื่อเรียนหนังสือและพระธรรมวินัย ”

ดังนั้น การถวายผ้าอาบน้ำฝน ตลอดจนสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงการบวชเรียนในช่วงเข้าพรรษาเพื่อให้พระสงฆ์ประกอบกิจในช่วงจำพรรษา จึงถือเป็นประเพณีปฏิบัติ เป็นต้นมากระทั่งปัจจุบัน

ทัวร์แนะนำ

  1. เหมากรุ๊ป Team Building
  2. เหมากรุ๊ป CSR
  3. เหมากรุ๊ป Team Building และ CSR
  4. เหมากรุ๊ปทัวร์ในประเทศ
  5. เหมากรุ๊ปทัวร์เอเชีย

ศูนย์รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับในประเทศและโซนเอเชีย

นิววิวทัวร์ รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

เชื่อถือได้

เราเป็นบริษัทที่ทำด้านการท่องเที่ยวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลูกค้าต่างๆมากมาย ซึ่งเชื่อมั่นในคุณภาพของการดำเนินงานของเรา

ราคาคุ้มค่า

ทุกแพ็คเก็จทัวร์มีรายละเอียดและแผนงาน ที่ทำให้คุ้มค่ากับทุกบาทที่ลูกค้าเลือกเรา

บริการต่อเนื่อง

 เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ๆ หรือ ทัวร์น่าเทียว เราจะแจ้งให้ทราบตามส่วนติดต่อที่ระบุไว้ให้กับเรา 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราทีทีมงานที่พร้อมให้ข้อมูลกับลูกค้าทุกท่าน เพียงแค่โทรหาเรา

นิววิวทัวร์พาเที่ยว

กับผลงานการจัดทัวร์บางส่วนของความมุ่งมั่นในการให้บริการจากเราและการอุปการะคุณที่ดีของลูกค้าที่ผ่านมาโดยตลอด

คำยืนยันลูกค้า

คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์