รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

2 ช่องทางและวิธีการเดินทาง แผนที่ ภูมิอากาศ สุราษฎร์ธานี

tour-channel-transportation

ช่องทางและวิธีการเดินทาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 โดยผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงสุราษฎร์ธานี รวมระยะทาง 685 กิโลเมตร 

รถไฟ
จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทาง 650 กิโลเมตร ผู้โดยสารต้องไปลงที่สถานีรถไฟอำเภอพุนพิน ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางหรือแท็กซี่เข้าตัวจังหวัด ระยะทาง 13 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน โทร. 0 7731 1213 www.railway.co.th

รถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถระหว่าง กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 2434 5557-8 (รถธรรมดา) และ 0 2435 1199, 0 2435 1200 (รถปรับอากาศ) www.transport.co.th  หรือบริษัทเอกชน โสภณทัวร์ โทร. 0 2435 5023 กรุงสยาม โทร. 0 2435 5024 นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย
อีกด้วย

เครื่องบิน
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียด โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000 สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 2610, 0 7727 3710 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร 0 7725 3500 ต่อ 262 www.thaiairways.com  นอกจากนี้ บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที สอบถามรายละเอียด โทร. 0 2265 5555 หรือ เกาะสมุย โทร. 0 7742 2512-8 www.bangkokairways.com

การคมนาคมภายในตัวจังหวัด

รถโดยสารประจำทาง
จากสุราษฎร์ธานีมีรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และรถโดยสารธรรมดาไปจังหวัดต่าง ๆ ทุกจังหวัดทางภาคใต้ รายละเอียดติดต่อที่สถานีขนส่ง ถนนสุราษฎร์ธานี-พุนพิน โทร. 0 7720 0032-3

รถไฟ
จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน มีรถไฟไปจังหวัดนราธิวาส ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ไชยา ชุมพร หัวหิน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 7731 1213

การเดินทางจากอำเภอเมืองสุราษฏร์ธานีไปยังอำเภอต่างๆ

อำเภอพุนพิน 12 กิโลเมตร
อำเภอกาญจนดิษฐ์ 18 กิโลเมตร
อำเภอท่าฉาง 37 กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาสาร 41 กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาเดิม 50 กิโลเมตร
อำเภอคีรีรัฐนิคม 55 กิโลเมตร
อำเภอดอนสัก 61 กิโลเมตร
อำเภอเคียนซา 61 กิโลเมตร
อำเภอไชยา 68 กิโลเมตร
อำเภอพระแสง 68 กิโลเมตร
อำเภอเวียงสระ 68 กิโลเมตร
อำเภอวิภาวดี 70 กิโลเมตร
อำเภอบ้านตาขุน 71 กิโลเมตร
อำเภอท่าชนะ 78 กิโลเมตร
อำเภอพนม 80 กิโลเมตร
อำเภอเกาะสมุย 84 กิโลเมตร
อำเภอเกาะพะงัน 100 กิโลเมตร
อำเภอชัยบุรี 112 กิโลเมตร

tour-map

แผนที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

tour-map-surat-thani


 

tour-map-surat-thani-2

tour-map-surat-thani-3

tour-map-surat-thani-4

tour-weather

ภูมิอากาศ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สภาพอากาศโดยทั่วไปของจังหวัด ร้อนชื้น มีฝนตกชุก ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเกาะ คือช่วงปลายเดือนมีนาคม-ปลายเดือนพฤษภาคม เนื่องจากจะไม่มีมรสุมเข้า

ลักษณะทั่วไป
จังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดประจำเป็นฤดู 2 ชนิด คือ ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือฤดูหนาว จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งจากประเทศจีนพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนตั้งแต่ภาคกลางขึ้นไป มีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป แต่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปกลับมีฝนตกชุก เพราะลมมรสุมนี้พัดผ่านอ่าวไทยจึงพัดพาเอาไอน้ำไปตกเป็นฝนทั่วไปตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป อากาศจึงไม่หนาวเย็นดังเช่นภาคอื่น ๆ ที่อยู่ทางตอนบนของประเทศและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกได้รับอิทธิพลของลมนี้เต็มที่ จึงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและมีอากาศหนาวเย็นเป็นครั้งคราว ลมมรสุมอีกชนิดหนึ่งคือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย จึงพาเอาไอน้ำและความชุ่มชื้นมาสู่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเทือกเขาตะนาวศรี ด้านตะวันตกปิดกั้นกระแสลมไว้ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีฝนน้อยกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลม

อุณหภูมิ
เนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในคาบสมุทรที่เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมอย่างเต็มที่ คือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรอินเดียและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดผ่านอ่าวไทย ทำให้ได้รับไอน้ำและความชุ่มชื้นมาก อุณหภูมิเฉลี่ยจึงไม่สูงมากนัก และอากาศไม่ร้อนจัดในฤดูร้อนจะอบอุ่นในช่วงฤดูฝน ส่วนในฤดูหนาวจะมีอากาศเย็นได้ในบางครั้ง อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 32.1 องศาเซลเซียส เคยตรวจอุณหภูมิสูงสุดได้ 39.0 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2501 และวันที่ 6 เมษายน 2501 เคยตรวจอุณหภูมิต่ำที่สุดได้ 12.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2500

ความชื้นสัมพัทธ์
ความชื้นสัมพัทธ์สัมพันธ์กับมวลอากาศและอิทธิพลของลมมรสุมเป็นสำคัญ ตลอดทั้งปีจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีความชื้นสัมพัทธ์สูง เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากมรสุมทั้งสองฤดู คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มรสุมทั้งสองนี้ก่อนที่จะพัดเข้าสู่บริเวณจังหวัด ได้พัดผ่านทะเลและมหาสมุทรจึงได้พาเอาไอน้ำและความชุ่มชื้นมาด้วย ทำให้บริเวณจังหวัดมีความชื้นสัมพัทธ์สูงเป็นเวลานาน ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปีประมาณ 83 % ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ย 96 % ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดเฉลี่ย 62 % เคยตรวจความชื้นสัมพัทธ์ต่ำที่สุดได้ 20 % ในเดือนมีนาคม

ฝน
จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก จัดเป็นจังหวัดที่มีฝนตลอดทั้งปี ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกชุกมากว่าในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เพราะอยู่ทางด้านตะวันออก ไม่มีภูเขาสูงปิดกั้นจึงได้รับกระแสจากมรสุมเต็มที่ ทำให้มีฝนชุกโดยเฉพาะเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ส่วนในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีฝนตกน้อยกว่าฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะภูมิประเทศมีแนวเทือกเขาตะนาวศรีเป็นเทือกยาวปิดกั้น ทำให้ได้รับกระแสลมจากมรสุมนี้ไม่เต็มที่ ปริมาณฝนเฉลี่ยของจังหวัดสุราษฎร์ธานีอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ฝนเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 1710.0 มิลลิเมตร และฝนตกเฉลี่ย 165 วัน เดือนที่มีฝนตกมากที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน มีฝนเฉลี่ย 340.5 มิลลิเมตร ฝนตกประมาณ 20 วัน ฝนสูงสุดใน 24 ชั่วโมงเคยตรวจได้ 457.1 มิลลิเมตร เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2507

จำนวนเมฆ
ตลอดทั้งปีจะมีจำนวนเมฆเฉลี่ยประมาณ 6 ส่วนของจำนวนเมฆ 8 ส่วนในท้องฟ้า โดยในฤดูร้อนจะมีเมฆเฉลี่ยประมาณ 4 ส่วน ในฤดูฝนจะมีเมฆเฉลี่ยประมาณ 7 ส่วน ส่วนในฤดูหนาวจะมีเมฆเฉลี่ยประมาณ 6 ส่วน
หมอก ฟ้าหลัวและทัศนวิสัย
โดยเฉลี่ยและจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะมีโอกาสเกิดหมอกได้ทุกเดือนเกือบตลอดทั้งปี แต่เดือนที่มีหมอกเกิดได้มากที่สุด คือระหว่างเดือนตุลาคมถึงเมษายน อาจมีหมอกเกิดได้ในเดือนหนึ่งประมาณ 10 – 17 วัน ในวันที่เกิดหมอกทัศนวิสัยจะเลว เห็นได้ไกลไม่เกิน 1 กิโลเมตร ส่วนฟ้าหลัวก็เช่นเดียวกัน โดยเฉลี่ยจะเกิดได้ทุกเดือนตลอดปี แต่ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายนมีฟ้าหลัวเกิดขึ้นมากที่สุดประมาณ 10 – 25 วัน โดยเกิดมากที่สุดในเดือนมีนาคม วันที่มีฟ้าหลัวทัศนวิสัยจะเห็นได้ไกลประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร และเฉลี่ยเวลา 07.00 น. จะเห็นได้ไกลประมาณ 6 กิโลเมตร เฉลี่ยตลอดวันเห็นได้ไกลประมาณ 8 – 9 กิโลเมตร

ลม
ระบบหมุนเวียนของลมในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีความชัดเจนดี ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือฤดูหนาว ลมส่วนใหญ่จะพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเป็นลมอ่อน ความเร็วลมเฉลี่ยประมาณ 4 – 6 กม./ ชม. ช่วงว่างของฤดูมรสุมคือในฤดูร้อนเดือนกุมภาพันธ์ ลมจะพัดจากทิศตะวันออกเปลี่ยนกลับเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกในเดือนมีนาคมและเมษายน ความเร็วลมเฉลี่ยประมาณ 5 – 6 กม./ ชม. เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มพัดปกคลุมจะเปลี่ยนเป็นลมทิศตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมดึงตุลาคม ความเร็วลมเฉลี่ยประมาณ 4 – 6 กม./ ชม. กำลังลมสูงที่สุดในแต่ละฤดูมีดังนี้ ฤดูร้อนเคยตรวจลมสูงที่สุดได้ 76 กม./ชม.

ค้นหาที่ท่องเที่ยว


Thailand Tourism Standard

ทัวร์แนะนำ

ผู้เข้าชม

มี 726 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์