รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

ยุคของงานแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี

สารบัญ

สมัยที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๐๒ - ๒๕๑๙) สลักเทียน สลักลาย
พ.ศ.๒๕๐๒ หลังจากได้มีการจัดทำต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ติดต่อกันมานาน นายคำหมา แสงงาม ผู้ซึ่งเคยศึกษางานศิลปะมาตั้งแต่สมัยบวชเป็นพระภิกษุ เคยเป็นลูกมือพระครูวิโรจน์รัตนโนบล บูรณะองค์พระธาตุพนมเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ เมื่อลาสิกขาบทเป็นฆราวาสแล้ว ท่านก็ยังปฏิบัติงานด้านศิลปะเป็นประจำ จนมีความรู้ความสามารถด้านศิลปะหลายแขนง เข่น การเขียนลาย การแกะสลักไม้ การออกแบบลวดลายประกอบส่วนต่าง ๆ ของศาสนาคาร ได้แก่โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ เมรุ ซุ้มประตู เป็นต้น ช่างสูงอายุคนหนึ่งได้คิดและแกะสลักต้นเทียนโดยไม่ต้องพิมพ์ดอกมาติด เหมือนเช่นที่ช่างรุ่นก่อนทำมา โดยแกะสลักลวดลายลงบนต้นเทียนเป็นลายกนกเปลวทั้งต้น ส่วนฐานมีการแกะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติปางต่าง ๆ รวมถึงเรื่องราวและสาเหตุของการทำเทียนพรรษาได้อย่างสวยงามวิจิตรตระการตา ทำให้ต้นเทียนแกะสลักที่นายคำหมาทำให้กับบ้านกุดเป่ง อำเภอวารินชำราบ มีความแปลกใหม่สวยงาม ผลงานทุกชิ้นของท่านเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ฝีมือประณีตมาก คณะกรรมการประกวดต้นเทียนเห็นว่า ต้นเทียนแกะสลักของชาวคุ้มวัดบ้านกุดเป่งมีความแปลกใหม่และสวยงาม จึงตัดสินก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ

tour-candle-festival-generation-ubon-ratchathani tour-candle-festival-generation-ubon-ratchathani

แต่เนื่องจากในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ นั้น การประกวดต้นเทียนยังมิได้แยกรางวัลออกเป็นประเภทต่าง ๆ เช่นทุกวันนี้ จึงนับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีในวงการช่างทำเทียนพรรษา ถือได้ว่าผลงานแกะสลักต้นเทียนของนายคำหมา แสงงาม เป็นต้นแบบของเทียนพรรษาประเภทแกะสลักในปัจจุบัน นายสุวิชช คูณผล อดีตปลัดเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว เล่าว่า “ชาวบ้านกุดเป่ง และชาววารินขำราบต่างตืนเต้นดีใจกันยกใหญ่ เพราะเป็นรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัด ได้ถามนายคำหมา แสงงามว่า ส่งต้นเทียนพรรษาเข้าประกวดเป็นครั้งแรกก็ชนะเลิศมีความรู้สึกอย่างไร จารย์ครูหมาหัวเราะ ตอบแบบติดตลกว่าขนาดหมดทำ ยังชนะเลิศ ถ้าคนทำจะขนาดไหน ชาวบ้าน ก็ได้เฮฮากันลั่น”

ดังนั้น ในปีต่อมาประชาชนคุ้มวัดต่าง ๆ ไม่พอใจการตัดสินของคณะกรรมการที่ตัดสินต้นเทียนโดยไม่มีการแยกประเภท จึงได้มีการเสนอให้จัดประกวดต้นเทียน 3 ประเภท คือ ประเภทมัดรวมติดลาย ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก ระยะต่อมาจึงตัดต้นเทียนประเภทมัดรวมติดลายที่เป็นต้นเทียนแบบเก่า ออกจากการประกวด นายคำหมา แสงงามได้กลายเป็นช่างแกะสลักเทียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม

ต่อมา ต้นเทียนประเภทมัดรวมติดลาย ซึ่งเป็นต้นเทียนแบบเก่าแก่ของจังหวัดอุบลราชธานี คุ้มวัดต่าง ๆ ไม่นิยมจัดทำเข้าประกวดเนื่องจากไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ประชาชนไม่นิยมชมชอบ คณะกรรมการจึงตัดออกจากการประกวด ในปีถัด ๆ มาการประกวดต้นเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีจึงเหลืออยู่เพียง ๒ ประเภท คือ

๑) ประเภทติดพิมพ์
๒) ประเภทแกะสลัก

ช่างแกะสลักต้นเทียนที่มีฝีมือในรุ่นต่อมาได้แก่ นายอุตส่าห์ จันทรวิจิตร และนายสมัยจันทรวิจิตร ซึ่งเป็นพี่น้องกันร่วมบิดามารดา

ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ จังหวัดและเทศบาลเมืองอุบลราชธานี พิจารณาเห็นว่างานแห่เทียนพรรษาเป็นงานที่ได้รับความร่วมมือจากข้าราซการ พ่อค้า และชาวบ้านเป็นจำนวนมาก สมควรที่จะจัดเป็นงานใหญ่ระดับชาติได้ ดังนั้นจึงได้เชิญองค์การส่งเสริมการท่องเทียวแห่งประเทศไทย (อสท.) มาสังเกตการณ์ในงานแห่เทียนพรรษา ส่งผลให้ไนปี พ.ศ. ๒๕๒๐ งานแห่เทียนพรรษาซึ่งได้รับการส่งเสริมการท่องเทียว(อสท.) หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไ่ทย (ททท.) กระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี

ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นต้นมา จึงนับ เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งสำคัญของงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี เห็นได้จากในปีเดียวกันคณะกรรมการจัดงานมีการเพิ่มเติมการประกวดขบวนแห่นางฟ้าประจำต้นเทียน ตลอดจนการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คะแนนในการประกวดทั้งนางฟ้าและต้นเทียน นอกจากนี้ยังมีการกำหนดระยะเวลาการจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น ๓ วันคือ ระหว่างวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ จนถึงวันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ โดยในวันแรกถือเป็นวันเปิดงาน วันที่สองเวลากลางวันเป็นการประกวดต้นเทียนพรรษา

tour-candle-festival-generation-ubon-ratchathani tour-candle-festival-generation-ubon-ratchathani

สมัยที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๐ - ปัจจุบัน) โรจน์ศาสตร์ เรืองศิลป์
นับเป็นยุคทองของการทำต้นเทียนพรรษากิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่ตระการตาของต้นเทียน การประกวดต้นเทียน และขบวนแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการเผยแพร่ขจรไกลให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในหมู่ประชาชนคนไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งต่างหลั่งไหลมาชมงานบุญประเพณีแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีกันอย่างมากมายล้นหลาม เป็นเหตุให้งานประเพณีแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีกลายเป็นเทศกาลงานบุญที่ยิ่งใหญ่มโหฬาร จากการลงทุนด้านแรงงาน เวลา กำลังความคิด กำลังทรัพย์ ซึ่งทุ่มเทกันอย่างมากมายอยู่แล้ว ก็ได้เพิ่มทวีคูณมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองแห่งนักปราชญ์ โรจน์ศาสตร์ เรืองศิลป์ เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีจึงงดงามด้วยความร่วมมือรวมใจ แฝงไว้ด้วยพลังแห่งศรัทธา วิจิตรตระการตาด้วยฝีมือ

ดังนั้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (อสท.) หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในปัจจุบัน ได้ให้การสนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรม และร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ถือเป็นงานประจำปีและงานระดับชาติ ตั้งแตป พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นต้นมา การจัดทำต้นเทียนพรรษาพร้อมบริวาร เริ่มจัดทำใหญ่โตเรื่อยมา ต่อมานายสุวัฒน์ สุทธิประภา ช่างเทียนประเภทแกะสลัก ได้จัดทำต้นเทียนให้กับวัดเมืองเดชอำเภอเดชอุดม ส่งเข้าประกวดในงานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี นับเป็นต้นเทียนที่ตื่นตาตื่นใจผู้มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่งปรากฏว่าได้รับรางวัลชนะเลิศ ดังนั้น ในปีต่อ ๆ มาช่างคุ้มวัดต่าง ๆก็ได้พัฒนาการทำต้นเทียนให้สวยงามยิ่งใหญ่อลังการเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน หากมองย้อนอดีตนับเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนในท้องถิ่นที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสบสานงานประเพณีนี้มานับ ๑๐๐ ปี ชาวคุ้มวัด ทุกวัดต่างมีส่วนร่วมในการจัดทำต้นเทียนตั้งแต่เด็กจนแก่ จนถือเป็นความรับผิดชอบและหวงแหน พร้อม ๆ กับการทุ่มเทพลังทางความคิด ในการศึกษาและคิดค้นเทคนิควิธีการใหม่ ๆ เพื่อพัฒนา์การจัดทำเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีให้มีวิวัฒนาการยิ่ง ๆ ขึ้นไป

เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้ามามีบทบาทสนับสนุนงานประเพณีแห่เทียนพรรษา คณะกรรมการจัดงานได้จัดให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มโหฬาร มีการทบทวนและพัฒนาการประกวด อาทิ ให้แยกประเภทของการจัดประกวดโดยแบ่งเป็น การประกวดขบวนแห่ การประกวดนางฟ้าประจำต้นเทียน และการประกวดต้นเทียน มีการกำหนดเกณฑ์และวิธีการให้คะแนนในการประกวดไว้อย่างรัดกุมและเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยกำหนดระยะเวลาในการจัดงานเป็น ๓ วัน คือ วันขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่ำ และแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ วันแรกเป็นวันเปิดงาน วันที่สองเป็นวันรวมต้นเทียน ประกวดต้นเทียน และประกวดนางฟ้าประจำต้นเทียนในช่วงเวลากลางคืน และวันที่ ๓ เป็นพิธีแห่เทียนพรรษาและประกวดขบวนแห่ไปพร้อมกัน

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษาให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมโหฬาร มีการประกวดต้นเทียนประเภทต่างๆ ประกวดขบวนแห่ และนางฟ้า โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการให้คะแนนอย่างรัดกุม มีการประชาสัมพันธ์งานกันอย่างกว้างขวาง ทำให้มีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวและชมงานเป็นจำนวนมาก

งานประเพณีแห่เทียนพรรษาเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาของชาวอุบลฯ ซึ่งมีความเจริญในพุทธศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้กำหนดจัดงานขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 และแรม 1 ค่ำเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาจัดให้มีขึ้นทุกปี

นอกจากนั้นทางจังหวัดอุบลราชธานียังกำหนดประเพณีแห่เทียนพรรษา ให้สอดคล้องกับงานพิธีสำคัญของจังหวัดและของชาติในแต่ละปี ดังนี้

ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ คณะกรรมการจัดงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานเทียนพรรษาจำนวน ๑ เล่ม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำไปจุดบูชาพระอารามหลวงของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ กรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้ตามคำกราบบังคมทูล และกลายเป็นธรรมเนียมที่การจัดงานแห่เทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานีจะต้องขอพระราชทานเทียนพรรษาเพื่อความเป็นลิริมงคล ตลอดจนมีการจัดงานสมโภชเทียนพรรษาพระราชทานเพิ่มขึ้นจากงานแห่เทียนพรรษาทุกปีตราบจนปัจจุบัน

ในปีเดียวกันนั้นเอง ไม่เพียงแต่จังหวัดอุบลราชธานีจะได้รับพระราชทานเทียนพรรษาเท่านั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้น (นายประมูล จันทรจำนง) ได้หารือกับนายบำเพ็ญ ณ อุบล ซึ่งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาในขณะนั้น อีกทั้งยังเป็นผู้สืบเชื้อสายเจ้าเมืองอุบลราชธานี ดำริให้มีการอัญเชิญเครื่องยศเจ้าเมืองอุบลราชธานีและ เป็นตัวแทนของมเหศักดิ์หลักเมืองอุบล เพื่อนำขบวนแห่เทียนพรรษา โดยมีการนำเสนอเหตุผลว่า เนื่องจากเทียนพรรษาพระราชทานจังหวัดอุบลราชธานีได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเสมือนหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาจังหวัดอุบลราชธานีด้วยพระองค์เอง ดังนั้นเจ้าเมืองและผู้สืบเชื้อสายเจ้าเมืองจึงต้องนำขบวนเสด็จ เพื่อถวายความจงรักภักดีและป้องกันภยันตรายที่อาจจะมาถึงพระองค์

ทัวร์แนะนำ

  1. เหมากรุ๊ป Team Building
  2. เหมากรุ๊ป CSR
  3. เหมากรุ๊ป Team Building และ CSR
  4. เหมากรุ๊ปทัวร์ในประเทศ
  5. เหมากรุ๊ปทัวร์เอเชีย

ศูนย์รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับในประเทศและโซนเอเชีย

นิววิวทัวร์ รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

เชื่อถือได้

เราเป็นบริษัทที่ทำด้านการท่องเที่ยวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลูกค้าต่างๆมากมาย ซึ่งเชื่อมั่นในคุณภาพของการดำเนินงานของเรา

ราคาคุ้มค่า

ทุกแพ็คเก็จทัวร์มีรายละเอียดและแผนงาน ที่ทำให้คุ้มค่ากับทุกบาทที่ลูกค้าเลือกเรา

บริการต่อเนื่อง

 เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ๆ หรือ ทัวร์น่าเทียว เราจะแจ้งให้ทราบตามส่วนติดต่อที่ระบุไว้ให้กับเรา 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราทีทีมงานที่พร้อมให้ข้อมูลกับลูกค้าทุกท่าน เพียงแค่โทรหาเรา

นิววิวทัวร์พาเที่ยว

กับผลงานการจัดทัวร์บางส่วนของความมุ่งมั่นในการให้บริการจากเราและการอุปการะคุณที่ดีของลูกค้าที่ผ่านมาโดยตลอด

คำยืนยันลูกค้า

คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์