พระราชวังเว้ เวียดนาม

พระราชวังเว้ (Purple Forbidden City)

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม พระเจ้ายาลองทรงสร้างเลียนแบบพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ของจีน พระราชวังมี 2 ชั้น มีกำแพงกั้นระหว่างเขตพระราชวังกับพระราชฐานชั้นใน หลังกำแพงชั้นในเป็นเขตหวงห้าม ไม่ให้สามัญชนล่วงล้ำเข้าไปข้างในเขตพระราชฐาน กำแพงสีเหลือนี้ล้อมรอบพระราชวังชั้นในเอาไว้รอบด้าน มีประตูทางเข้าพระราชวังหลายประตู ประตูที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมวังเป็นประตูใหญ่ทำด้วยหินแกรนิตชื่อว่า ประตูเที่ยงวัน (Ngo Mon Gate) ชั้นบนเป็น พระที่นั่งหงส์ทั้งห้า หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีเหลือสดขริบริมด้วยสีเขียว ประตูเที่ยงวันและพระที่นั่งหงส์ทั้งห้านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานสถาปัตยกรรมชั้นยอดของราชวงศ์เหวียน ในอดีตพระที่นั่งองค์นี้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ยามเสด็จออกสู่มหาสมาคมในงานรัฐพิธี และที่พระที่นั่งองค์นี้ก็คือสถานที่ประวัติศาสตร์ ที่ซึ่งจักรพรรดิเบาได๋ กษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนามทรงมอบดาบอาญาสิทธิ์และอำนาจการปกครองเวียดนามให้กับโฮจิมินห์ เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์เหวียนและการปกครองระบบกษัตริย์ในเวียดนาม โดยต่อมาโฮจิมินห์ผู้นำรัฐบาลสังคมนิยมก็ได้ประกาศเอกราชให้เวียดนามจากการเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส

พระราชวังที่สวยที่สุดและสำคัญที่สุดในนครจักรพรรดิแห่งเว้ คือ พระราชวังไทฮวา (Thai Hua) หรือ พระราชวังสันติสุข สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1805 เป็นสถานที่รองรับเชื้อพระวงศ์ระดับสูงและทูตานุทูตจากต่างประเทศที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับเวียดนาม พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างอย่างวิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศิลปะจีนกับศิลปะเวียดนาม ตกแต่งเพดานและคานด้วยลวดลายสีทองและน้ำครั่งสีแดง

ในพระราชวังเว้มีตำหนักที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ตำหนักทรงพระอักษรและตำหนักสำราญ เป็นที่น่าเสียดายว่าสงครามได้ทำลายตำหนักกต่างๆ ไปเกือบหมด คงเหลือไว้เพียงส่วนน้อย แต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมเว้ก็ยังเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนนครแห่งนี้

• ก่อนหน้า
• ต่อไป