12 ประวัติ อื่นๆ เวียดนาม
สารบัญ
เวียดนามมีชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” (The Socialist Republic of Vietnam) เวียดนามตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศเก่าแก่ประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย มีพรมแดนติดกับจีน ลาว และกัมพูชา ติดทะเลจีนใต้กับอ่าวไทย เวียดนามมีประชากรทั้งประเทศ 81,624,716 คน (กรกฎาคม ค.ศ.2003) ประกอบด้วยชาวเวียดนาม 90% นอกนั้นเป็นชนชาติอื่น คือ จีน เขมร ไทย จาม และชนกลุ่มน้อยที่เป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ ประชากร 77% อาศัยอยู่ในชนบท ประชาชนในประเทศกว่าครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 25 ปี ชนกลุ่มน้อยของเวียดนามอาศัยอยู่ตามที่ราบสูงในชนบทประมาณ 10%
เมืองหลวงของเวียดนาม ชื่อ กรุงฮานอย (Hanoi) โดยมีภาษาราชการคือ ภาษาเวียดนาม เนื่องจากเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสมานาน ชาวเวียดนามจึงพูดภาษาฝรั่งเศสได้ ส่วนภาอังกฤษนั้น ชาวเวียดนามกำลังตื่นตัวและเริ่มมีการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างกว้างขวาง
เวียดนามเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาชมความงามของภูมิประเทศที่ยังคงงดงามบริสุทธิ์ ด้วยความได้เปรียบทางธรรมชาติที่ตั้งของเวียดนามที่มีพรมแดนประเทศติดต่อกับกัมพูชาและลาว มีเทือกเขาขนาบอยู่ทางทิศตะวันตก ด้านทิศตะวันออกมีชายฝั่งทะเลเป็นแนวยาวติดทะเลจีนใต้ ด้านทิศเหนือกับทิศใต้มีสันดอนแม่น้ำแดงกับสันดอนแม่น้ำโขงเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของประเทศ
ธงชาติเวียดนามพื้นธงเป็นสีแดง มีดาวดวงใหญ่สีเหลืองอยู่ตรงกลาง สัญลักษณ์เวียดนามที่รู้จักกันดีคือ หมวกโนนลา (non – la) หมวกยอดแหลมสานใบลาน กับสาวเวียดนามเอวบางร่างน้อยในชุดประจำชาติ อ๋าวหย่าย (ao dai)
วันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 เป็นวันประกาศอิสรภาพจากฝรั่งเศส และเป็นวันชาติเวียดนาม
อาณาเขต เวียดนามมีพื้นที่ประมาณ 327,500 ตารางกิโลเมตร ความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,650 กิโลเมตร ขนานไปตามแนวยาวของคาบสมุทรอินโดจีน นอกจากนี้ยังมีไหล่เขาและหมู่เกาะต่างๆ อีกนับพันเกาะเรียงรายตั้งแต่อ่าวตังเกี๋ยไปจนถึงอ่าวไทย
ทิศเหนือ ติดกับ ประเทศจีน
ทิศใต้ ติดกับทะเลจีนใต้ทิศตะวันออก ติดกับ อ่าวตังเกี๋ยและทะเลจีนใต้
ทิศตะวันตก ติดกับอ่าวไทย ประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลา
เวียดนามเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกเพราะภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในเวียดนามเป็นเวลานานเกือบ 2 ทศวรรษ สงครามลัทธิระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้เป็นสงครามประวัติศาสตร์ที่โลกไม่เคยลืม ในประวัติศาสตร์ของเวียดนามต้องเผชิญกับการทำศึกสงครามมาตลอดเวลา ตั้งแต่ยุคแรกของการตั้งอาณาจักร เวียดนามก็ถูกจีนรุกราน จีนเข้ามายึดครองเวียดนามเป็นเวลานานนับพันปีจนส่งอิทธิพลต่อเวียดนามทั้งในด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ชาวเวียดนามเป็นนักสู้มาตั้งแต่ครั้งอดีต สามารถต่อสู้กับผู้รุกรานจนขับไล่ศัตรูออกไปพ้นดินแดนเวียดนามได้หลายครั้งหลายหนนับตั้งแต่ชาวจีน ชาวมองโกล มาจนถึงสงครามยุคใหม่ของนักล่าอาณานิคมจากยุโรป เวียดนามประเทศเล็กๆ นี้ก็สามารถสู้รบกับนักล่าอาณานิคมชาวฝรั่งเศสและมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งได้เอกราชและอธิปไตยกลับคืนมาอย่างน่าภาคภูมิใจ
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ยากจนประเทศหนึ่งในเอเชีย แต่ในรอบสิบปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตขึ้นปีละ 7% เปลี่ยนแปลงไปจากประเทศที่ต้องนำเข้าข้าวเพื่อการบริโภคเพราะบ้านเมืองอยู่ในภาวะสงคราม ประชาชนมัวแต่ทำศึกไม่มีเวลาปลูกข้าวกิน ในวันนี้เวียดนามกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ในด้านการปกครอง เวียดนามเป็นประเทศสังคมนิยม (Communist State) ที่มีพรรคการเมืองพรรคเดียว คือพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลก เมื่อสิ้นสุดสงครามเวียดนามหรือที่คนเวียดนามเรียกว่า American War การรวมกันของเวียดนามเหนือ กับเวียดนามใต้ เป็นเวียดนามเดียวกันเมื่อปี ค.ศ. 1975 แล้ว จำนวนพลเมืองของเวียดนามก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วปี ค.ศ. 1986 เวียดนามประกาศใช้นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่เรียกว่า “โดยเมย – Doi Moi” (ปรับ – เปิด) คือนโยบายเศรษฐกิจเดียวกับ “Glasnost – Perestroika” ของรัสเซีย ทำให้ฐานะเศรษฐกิจของประเทศที่บอบช้ำจากสงครามค่อยๆ กระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ
ลักษณะภูมิอากาศ
เนื่องจากแผ่นดินของเวียดนามมีความยาวมาก ทำให้ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยอาจแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
ภาคเหนือ
ภูมิประเทศเวียดนามประกอบด้วยภูเขาสูงมากมาย โดยเฉพาะเทือกเขาฟานสีปัน สูงถึง 3,143 เมตร สูงที่สุดในอินโดจีน มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำกุง ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแดงเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกและยังเป็นที่ตั้งของเมืองฮานอยอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเวียดนาม มีที่ราบลุ่ม Cao Bang และ Vinh Yen ตลอดจนเกาะแก่งกว่า 3,000 เกาะ อ่าวฮาลอง และเนื่องจากพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตอากาศหนาว ซึ่งได้รับอิทธิพลกระแสลมแรงพัดจากขั้วโลก ทำให้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น
ภูมิอากาศในเขตภาคเหนือแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู
1.ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) มีฝนตกปรอยๆ และความชื้นสูง อุณหภูมิประมาณ 17 องศา – 23 องศา
2.ฤดูร้อน (พฤษภาคม-สิงหาคม) อากาศร้อนและมีฝน อุณหภูมิประมาณ 30 – 39 องศา เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนมิถุนายน
3.ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 23 – 28 องศา
4.ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบปี คือ ประมาณ 7 – 20 องศา แต่ในบางครั้งอาจลดลงถึง 0 องศา เดือนที่อากาศหนาวที่สุดคือ มกราคม
ภาคกลาง
ภาคกลางของเวียดนามยังมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากมาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงซึ่งเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ หาดทราย เนินทราย และทะเลสาบ
ภูมิอากาศในเขตภาคภาคกลาง 2 ฤดู
1.ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) เดือนที่อากาศร้อนที่สุดคือ มิถุนายน-กรกฎาคม อุณหภูมิเกือบ 40 องศา
2.ฤดูแล้ง (ตุลาคม-เมษายน) เดือนที่อากาศเย็นที่สุด คือ มกราคม อุณหภูมิเกือบ 20 องศา
ภาคใต้
แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวียตนามเป็นที่ราบสูง แต่ก็มีที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง หรือชื่อที่รู้จักคือ กู๋ลอง (Cuu Long) อันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม และเป็นที่ตั้งของกรุงโฮจิมินห์ซิตี้ หรือ ไซ่ง่อน ภูมิอากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิประมาณ 27 องศา
ฤดู มี 2 ฤดู คือ
1.ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน) เดือนที่ร้อนที่สุดคือ เดือนเมษายน อุณหภูมิประมาณ 39 องศา
2.ฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) เดือนที่อากาศเย็นที่สุดคือ มกราคม อุณหภูมิประมาณ 26 องศา
ประวัติศาสตร์
บริเวณที่เป็นดินแดนของเวียดนามในแถบลุ่มแม่น้ำแดง (Song Hong หรือ Red River) เคยมีมนุษย์อาศัยอยู่มานานกว่า 5,000 ปีมาแล้ว จนกระทั่ง 258 ปีก่อนคริสตกาล จึงมีการสถาปนาอาณาจักรเวียดนามขึ้นเป็นครั้งแรก ต่อมาชาวจีนได้เข้ามารุกรานและผนวกเอาดินแดนสันดอนปากแม่น้ำแดงไปเป็นของจีนเป็นเวลานานเกือบพันปี ภายหลังชาวเวียดนามได้รวมกำลังกันต่อสู้ขับไล่ศัตรูจากทิศเหนือได้สำเร็จ
เวียดนามต้องสู้รบกับจีนซึ่งรุกรานเข้ามายึดเอาเวียดนามเป็นเมืองขึ้นหลายครั้งหลายหน จีนมีกองทัพใหญ่กว่าจึงสามารถเอาชนะเวียดนามได้แทบทุกครั้ง แต่จีนได้ยึดครองเวียดนามเพียงช่วงระยะเวลาไม่นาน เพราะชาวเวียดนามไม่เคยยอมแพ้จีน ขณะที่จีนปกครองเวียดนามอยู่นั้นวีรบุรุษและวีรสตรีชาวเวียดนามได้พยายามซ่องสุมผู้คนและรวบรวมกำลังชาวเวียดนามผู้รักชาติ ต่อสู้ขับไล่จีนออกไปจากแผ่นดินครั้งแล้วครั้งเล่า ในศตวรรษที่ 10 ราชวงศ์ถังของจีนได้ครองเวียดนามอีกครั้งและเปลี่ยนชื่อเวียดนามจาก “นามเวียด” (Nam Viet) มาเป็น “อานนาม”(Annam) เมื่อราชวงศ์ถังของจีนล่มสลาย เวียดนามจึงได้ฉวยโอกาสประกาศอิสรภาพจากการปกครองของจีน โดยมีนายพลโงเกวี่ยน (Ngo Quyen) เป็นผู้นำจีนส่งกองทัพเรือบุกเข้ามาทางปากน้ำแบ็กดัง (Bach Dang River) นายพลโงเกวี่ยนใช้อุบายล่อหลอกกองทัพเรือจีนให้ติดตามเข้าไปในปากแม่น้ำแบ็กดัง จนกองทัพเรือจีนเกยตื้นและเสียหายยับเยิน เพราะติดขวากที่เวียดนามปักรอไว้ที่ปากแม่น้ำเวียดนามจึงได้รับชัยชนะเด็ดขาด ภายหลังนายพลโงเกวี่ยนได้ก่อตั้งราชวงศ์โง (Ngo Dynasty) ขึ้นเป็นราชวงศ์แรก และเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่ว่า “ไดเวียด” (Dai Viet – Great Viet)




คำยืนยันลูกค้า
คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - Outing นครนายก (เถ้าแก่น้อย (แผนกผลิต)) 40 ท่าน Part 1
15633 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - กรุ๊ปคุณอุ้มยศ (ท็อปปิก้า เอ็ดเทค กรุ๊ป) ทีมบิ้วดิ้งระยอง 2 วัน 67 ท่าน กรุ๊ปที่ 1 Part4
23116 Views
คำยืนยันแด่นิววิวทัวร์ - CSR ภูเก็ต (มิตซุย เคมิคอล) 23 ท่าน Part 1
14825 Views