รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน ในประเทศและโซนเอเชีย
สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
084-160-0210 , 02-733-0683

12 ประวัติ อื่นๆ เวียดนาม

สารบัญ

ศึกมองโกล
ในศตวรรษที่ 12 จักรพรรดิชาวมองโกลกุบไล่ข่าน (Kublai Khan) ได้แผ่ขยายอำนาจเข้าคุกคามจีนจนได้ปกครองจีน กุบไล่ข่านยกกองทัพติดตามทหารจีนที่หนีเข้ามาในเขตเวียดนาม กองทหารของกุลไล่ข่านเข้าโจมตีกองทหารเวียดนามจนยึดเมืองทังลอง เมืองหลวงของเวียดนามในขณะนั้นได้ พวกมองโกลเผาเมืองจนพินาศ แต่ในที่สุดทหารเวียดนามก็ต่อสู้ขับไล่พวกมองโกลออกไปจากอาณาจักรได้สำเร็จ

อีก 30 ปีต่อมา กุบไล่ข่าน จักรพรรดิผู้ไม่เคยแพ้ใครก็ยกทัพใหญ่มาเหยียบเวียดนามอีกครั้ง เพราะต้องการจะครอบครองดินแดนในแถบนี้ทั้งหมด กุบไล่ข่านกับพระโอรสนำกองทหารมองโกล 500,000 คน บุกเวียดนาม ตั้งใจจะเหยียบเวียดนามให้ราบเป็นหน้ากลอง

ชาวเวียดนามยังจำความโหดร้ายของทหารมองโกลได้ดี เมื่อครั้งที่เมืองทังลองถูกเผา จึงหมดกำลังใจที่จะสู้ศึกมองโกล แม่ทัพเวียดนามชื่อ นายพลตรันฮึ่งเดา (Tran Hung Dao) ได้เรียกประชุมขุนศึกเวียดนามแล้วถามว่า “จะสู้ตายหรือจะยอมแพ้” แม่ทัพนายกองกับทหารเวียดนามตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “สู้ตาย” ทหารเวียดนามทั้งกองทัพจึงพากันสักคำขวัญว่า “ฆ่ามองโกลให้หมด” ไว้ที่ต้นแขน แสดงเจตนาแน่วแน่ที่จะสู้กับมองโกลด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน นายพลตรันฮึ่งเดาวางแผนการรบอย่างชาญฉลาด เพราะมีกำลังทหารน้อยกว่ามองโกลมาก จึงสั่งให้ทหารเวียดนามล่อหลอกทหารมองโกลเข้าไปในเมืองร้างหลายแห่ง มองโกลได้ใจคิดว่าได้ชัยชนะ จึงแบ่งกำลังรักษาเมืองทุกเมืองที่เวียดนามที่เวียดนามทิ้งไว้ให้ ต่อจากนั้นกองทัพเวียดนามที่แอบซุ่มคอยทีอยู่ก็ค่อยๆใช้วิธีการรบแบบกองโจรโจมตีพวกมองโกลทีละแห่งจนกระทั่งมองโกลพ่ายแพ้ แต่ในที่สุดกองทัพเวียดนามที่มีกำลังเพียงหยิบมือเดียวก็สามารถขับไล่กองทัพที่มีไพร่พลมหาศาลอย่างมองโกลออกไปจากดินแดนของตนได้

ปี ค.ศ. 1288 มองโกลยกทัพใหญ่ประกอบด้วยไพร่พล 300,000 คน และกองเรือ 500 ลำ บุกเข้ามารุกรานเวียดนามอีกครั้ง นายพลตรังฮึ่งเดาวางแผนรับศึกทางน้ำด้วยการเลียนแบบยุทธวิธีของนายพลโงเกวี่ยน ด้วยการปักขวากยักษ์ที่ทำด้วยเสาไม้ติดปลายเหล็กแหลมจำนวนมากเอาไว้ที่บริเวณปากน้ำแบ็กดังในอ่าวฮาลอง เมื่อน้ำขึ้นทหารเวียดนามล่อให้กองทัพเรือมองโกลติดตามเข้าไปปากน้ำ พอใกล้เวลาน้ำลง กองเรือของเวียดนามส่วนใหญ่ที่ซุ่มคอยทีอยู่ก็ตีตลบกองทัพเรือมองโกลจนต้องถอยร่นไปทางปากน้ำตอนที่น้ำทะเลลดระดับลงมาก กองเรือมองโกลปะทะเข้ากับขวากยักษ์ทำให้เรือแตกเสียหายยับเยินเป็นผลให้ทหารมองโกลของกุบไล่ข่านต้องพ่ายแพ้ทหารเวียดนามอีกเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเวียดนามก็ได้อยู่อย่างสงบ เพราะว่าจีนไม่ได้ส่งกองทัพมารุกรานเวียดนามอีกเลยเป็นเวลานานหลายร้อยปี

เวียดนามมีกษัตริย์ผลัดเปลี่ยนกันปกครองอาณาจักรหลายราชวงศ์ด้วยกัน ในศตวรรษที่ 15 เวียดนามได้ขยายอาณาเขตไปทางใต้จนได้อาณาจักรจามปา (Champa Empire) ซึ่งเป็นอาณาจักรฮินดูเป็นเมืองขึ้น แต่เวียดนามยังยอมให้อาณาจักรจามปามีเจ้าผู้ครองนครปกครองตนเองต่อไป ดังนั้นเวียดนามทางตอนใต้จึงรับเอาวัฒนธรรมของชาวจามและขอมเข้ามาเป็นวัฒนธรรมของตน แต่ในที่สุดอาณาจักรจามปาก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเวียดนามในศตวรรษที่ 19

ในปี ค.ศ. 1802 เมืองเว้ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงของประเทศโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหวียน (Nguyen Dynasty) ยุคนี้สถาปัตยกรรมในเวียดนามเจริญสูงสุด มีการก่อสร้างพระราชวังเว้ สุสานกษัตริย์ และ ศาสนสถานที่สำคัญ ในสมัยก่อนบริเวณพระราชวังเว้เป็นเขตพระราชฐาน หวงห้ามไม่ให้ประชาชนคนธรรมดาเข้าไปข้างใน ถึงแม้ว่าพระราชวังเว้จะถูกระเบิดสมัยสงครามเวียดนามทำลายจนเสียหายไปมาก แต่ก็ยังมีพระราชวังที่สวยงามบางส่วนเหลืออยู่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเวียดนามที่ทำเงินเข้าประเทศปีละไม่น้อย ชาวเวียดนามสมัยใหม่ไม่ให้ความสำคัญกับพระราชวังโบราณเก่าแก่แห่งนี้มากเท่ากับอนุสรณ์สถานของโฮจิมินห์ที่กรุงฮานอย ซึ่งชาวเวียดนามเคารพสูงสุด ถึงกับยกย่องให้เป็นบิดาของชาวเวียดนาม

อาณานิคมฝรั่งเศส
ในยุคล่าเมืองขึ้น พวกมิชชันนารีโปรตุเกสเข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในเวียดนามก่อนชาติอื่น ต่อมาบาทหลวงชาวฝรั่งเศสจึงตามเข้ามา เวลานั้นฝรั่งเศสหมายตาดินแดนในแหลมอินโดจีนเอาไว้แล้ว ในขณะที่อังกฤษรุกเข้าไปในจีน ฝรั่งเศสก็มองเวียดนามเพื่อจะใช้เป็นทางผ่านที่จะเจาะเข้าจีนทางมณฑลยูนนาน เมื่อมีเหตุการณ์ขัดแย้งเรื่องศาสนาเกิดขึ้นในเวียดนาม และมีบาทหลวงชาวฝรั่งเศสถูกประหารชีวิต ฝรั่งเศสจึงได้ฉวยโอกาสนั้นส่งเรือรบ 2 ลำเข้ามายังเมืองท่าเรือทูเรน (Tourane) ปัจจุบันคือเมืองดานัง (Da Nang) ปี ค.ศ 1858 พระเจ้านะโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบ 14 ลำกับกองทหาร 2,500 นาย เข้าโจมตีดานังและบุกเข้ายึกไซ่ง่อน ฝรั่งเศสได้ครอบครองดินแดนบริเวณสันดอนปากแม่น้ำโขงทั้งหมดภายในเวลา 3 ปี อีก 5 ปีต่อมา ฝรั่งเศสก็ผนวกดินแดนทางใต้ของเวียดนามเป็นของฝรั่งเศส และเรียกอาณานิคมใหม่นี้ว่า “โคชิน – ไชน่า” (Cochin – China)

ฝรั่งเศสรุกคืบเข้าครองเวียดนามทีละน้อยๆจนในที่สุดก็ยึดฮานอย (Hanoi) หัวเมืองสำคัญทางตอนเหนือเป็นของฝรั่งเศสจนได้ ครั้นถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1883 กองเรือรบฝรั่งเศสก็ลอยลำเข้าไปถึงปากแม่น้ำหอมของเมืองเว้ เมืองหลวงของเวียดนามที่ตั้งอยู่ในภาคกลาง ฝรั่งเศสบังคับให้จักรพรรดิองค์ใหม่ยอมรับอิทธิพลของฝรั่งเศสในเวียดนามกลางและเวียดนามเหนือโดยเด็ดขาดและปีค.ศ. 1887 ฝรั่งเศสก็ผนึกเอาโคชิน – ไชน่าเข้ากับกัมพูชาและลาว กลายเป็นดินแดนใต้อาณานิคมของฝรั่งเศสในเอเชีย ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “สหภาพอินโดจีน” (Union of Indochina)

เวียดนามภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสมีความเจริญในด้านวัตถุหลายประการ เช่น มีการสร้างถนนหนทางเชื่อมเมืองต่างๆ ในเวียดนาม มีการปรับปรุงด้านการเกษตรและวางรากฐานการศึกษา (ชาวเวียดนามได้ไปศึกษาเล่าเรียนในยุโรป) และการสาธารณสุข (ทำให้เวียดนามปลอดภัยจากโรคระบาดร้ายแรง เช่น อหิวาตกโรค และไข้ทรพิษ) เวียดนามสามารถส่งออกข้าวและสินค้าทางการเกษตรไปขายในตลาดโลกมากมาย แต่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่กลับตกเป็นของฝรั่งเศส ในด้านภาษีอากร ฝรั่งเศสควบคุมการเก็บภาษีทั้งหมดและกระทำกับชาวเวียดนามอย่างรีดนาทาเร้น มีชาวจีนกับชาวเวียดนามเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ค้าขายกับฝรั่งเศสจนร่ำรวย

เวียดนามเจริญขึ้น แต่ในด้านจิตใจชาวเวียดนามกลับย่ำแย่ลง เพราะการปกครองที่เอารัดเอาเปรียบของฝรั่งเศส ทำให้ชาวเวียดนามเกลียดชังฝรั่งเศสและดิ้นรนที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศตลอดเวลา จึงเกิดนักสู้เพื่อเอกราชเวียดนามเป็นขบวนการต่อเนื่องนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

โฮจิมินห์กับขบวนการกู้ชาติ
จากนั้นได้มีการจัดตั้งกลุ่มชาตินิยม องค์การลับต่างๆ ประกอบด้วยขุนนาม นักวิชาการ และคนหนุ่มสาวของเวียดนาม กลุ่มชาตินิยมมีจุดประสงค์ที่จะปลดแอกเวียดนามจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส การปฎิวัติในรัสเซียมีอิทธิพลต่อนักปฏิวัติหนุ่มเวียดนามคนหนึ่ง ชื่อ โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส (French Communist Party) ขึ้นในปี ค.ศ. 1920 ที่กรุงปารีส โฮจิมินห์ใช้นามแฝงว่า “เหวียนไอควอค หรือเหวียนผู้รักชาติ” (Nguyen Ai Quoc – Nguyen the Patriot) อีก 3 ปีต่อมา เขาได้เป็นตัวแทนคอมมิวนิสต์สากลเดินทางไปมอสโคว์เพื่อฝึกอบรมการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ โฮจิมินห์มีความศรัทธาในอุดมการณ์มาร์กซิสต์ – สตาลิน อย่างแรงกล้า เมื่อกลับจากรัสเซีย เขาได้รวบรวมนักปฏิวัติหนุ่มสาวชาวเวียดนามก่อตั้ง “สมาคมเยาวชนเวียดนาม (Association of Vietnamese Youth)” ขึ้นเพื่อฝึกอบรมสมาชิกและหาทางดำเนินการปลดปล่อยประเทศให้เป็นอิสระ

โฮจิมินห์เป็นลูกข้าราชการชั้นผู้น้อยในชนบท เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1890 เขาเป็นเวียดนามที่มีเลือดรักชาติรุนแรง ในวัยหนุ่ม โฮมีปัญหากับทางการฝรั่งเศส จึงออกจากเวียดนามไปอยู่ที่ปารีส ตลอดเวลาเขาดำเนินการทุกอย่างเพื่อจุดประสงค์ที่จะปลดปล่อยเวียดนามให้เป็นเอกราช โฮจิมินห์ได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัสเซีย เมื่อขบวนการปลดปล่อยเวียดนามที่รวมกันอย่างหลวมๆ เริ่มแตกแยก โฮจึงรวบรวมพลพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกันขึ้นมาตั้งขบวนการใหม่ที่ฮ่องกง โดยได้ตั้งชื่อกลุ่มเคลื่อนไหวนี้ว่า “พรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน” (Indochinese Communist) โดยมีจุดประสงค์แน่วแน่ที่จะทำการปฏิวัติเพื่อปลดปล่อยเวียดนามให้เป็นอิสระจากการปกครองของฝรั่งเศส

สงครามโลกครั้งที่ 2
ปีค.ศ. 1940 กองทัพเยอรมันบุกฝรั่งเศส ทำให้ฝรั่งเศสต้องวางมือจากเวียดนามชั่วคราวไปร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรทำสงครามกับเยอรมัน เป็นจังหวะดีที่โฮจิมินห์รอคอยที่จะหาทางปลดแอกจากฝรั่งเศสมานานแล้ว แต่เมื่อญี่ปุ่นเปิดฉากสงครามในเอเชีย เวียดนามก็ต้องรับกองทัพญี่ปุ่นที่ทะลักเข้ามาในประเทศ ขบวนการกู้ชาติเวียดนามต้องหลบไปซ่องสุมผู้คนอยู่ในพื้นที่แถบภูเขาและเวลานั้นเองที่โฮจิมินห์ได้ร่วมมือกับนายพลโวเหวียนยาพ (Vo Nguyen Giap) และผู้รักชาติคนอื่นๆ จัดตั้งขบวนการ “สันนิบาตเวียดนามเสรี” (League for the Independence of Vietnam) ขึ้น เป็นที่รู้จักกันในชื่อ เวียดมินห์ (Viet Minh) ขบวนการนี้ทำการรณรงค์หากำลังสนับสนุนทั้งจากในและนอกประเทศอย่างหนัก ต่อมาเวียดมินห์ได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่มีชื่อว่า “กองทัพปลดปล่อยเวียดนาม” (Vietnamese Liberation Army) โดยโฮจิมินห์ขอความช่วยเหลือจากจีนให้ส่งอาวุธให้ ในขณะเดียวกันโฮจิมินห์ก็เล่นบทสายลับ ทำการสอดแนมและรายงานความเคลื่อนไหวของกองทัพญี่ปุ่นในเอเชียให้สหรัฐอเมริกา โดยแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนด้านอาวุธ แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป เมื่อญี่ปุ่นยึดครองเวียดนามทั้งประเทศและจับกุมนายทหารฝรั่งเศสทั้งหมดที่มีอยู่ในเวียดนาม

ครั้งเมื่อญี่ปุ่นออกมาประกาศยอมแพ้ เพราะสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาเป็นการปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 โฮจิมินห์ฉวยโอกาสนี้เรียกระดมพลและบุกเข้ายึกฮานอยและอีก 4 วันต่อจากนั้น ก็ทรงมอบดาบอาญาสิทธิ์ของแผ่นดิน ยกอำนาจในการปกครองประเทศให้โฮจิมินห์ ซึ่งได้ประกาศอิสรภาพให้เวียดนามเป็นอิสระจากฝรั่งเศสในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945 และตั้งชื่อประเทศใหม่ว่า “สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม” (Democratic Republic of Vietnam)

ศึกเดียนเบียนฟู
การประกาศอิสรภาพของโฮจิมินห์มีผลเฉพาะในเขตแดนทางเหนือของเวียดนามเท่านั้น ฝรั่งเศสที่ยังมีอิทธิพลอยู่ทางใต้ของเวียดนามและไม่ยอมรับการประกาศอิสรภาพของโฮจิมินห์จึงเกิดสงครามระหว่างขบวนการกู้ชาติเวียดนามกับกองทัพฝรั่งเศสเป็นสงครามยืดเยื้อนานถึง 8 ปี ในที่สุดกองทัพฝรั่งเศสก็พ่ายแพ้ต่อกองทัพเวียดมินห์ในการรบที่ชายแดนลาวใกล้เมืองเดียนเบียนฟู หลังจากการสู้รบกันอย่างนองเลือดเป็นเวลานานถึง 53 วัน ฝรั่งเศสก็ยอมแพ้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1954 กองทหารฝรั่งเศสถูกขับไล่ออกไปพ้นดินแดนเวียดนาม

แต่สงครามในอินโดจีนยังไม่สงบ เพราะกองกำลังเวียดมินห์ขยายเขตการรุกรานออกไป เพราะต้องการรวมเวียดนามให้เป็นประเทศเดียว จนเกิดการสู้รบกันเองระหว่างเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ จนกระทั่งนำไปสู่การเจรจาเพื่อหาทางยุติการสู้รบในอินโดจีนที่กรุงเจนีวา ทั้งสองฝ่ายส่งผู้แทนไปเจรจากันที่กรุงเจนีวา และได้ผลการประชุมออกมาเป็น “ข้อตกลงเจนีวา” (Geneva Accords) ซึ่งมีมติให้แบ่งเวียดนามออกเป็น 2 ส่วนตรงเส้นขนานที่ 17 ดินแดนส่วนเหนือเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (เวียดนามเหนือ) มีโฮจิมินห์เป็นผู้นำ และดินแดนส่วนใต้เป็น สาธารณรัฐเวียดนาม (เวียดนามใต้) มีกษัตริย์เบาได๋เป็นประมุข แต่มีนายกรัฐมนตรีโงดิงห์เหยียม (Ngo Dinh Diem) เป็นผู้นำ

รัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเวียดนามเหนือเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จนหลายประเทศในโลกเสรีกลัวภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์จะแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน เวียดนามใต้ก็มีสถานการณ์การเมืองที่ไม่มั่นคง ต่อมานายกรัฐมนตรีโงดิงห์เหยียมยึดอำนาจปกครองประเทศจากกษัตริย์เบาได๋แล้วตั้งตัวเองเป็นประธานาธิบดี หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในเวียดนามใต้ คณะนายทหารทำการปฏิวัติยึดอำนาจจากประธานาธิบดีโงดิงห์เหยียม เป็นผลให้ประธานาธิบดีกับน้องชายถูกสังหาร

กองกำลังของเวียดนามหนือสอดแทรกรุกคืบเข้ามาในเวียดนามใต้อย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาตัดสินใจส่งทหารจำนวนมากเข้าไปช่วยเวียดนามใต้รบกับเวียดนามเหนือกลายเป็นสงครามเวียดนาม (American War) ประมาณว่าระหว่างปีค.ศ. 1970 – 1973 มีทหารอเมริกัน 500,000 คน กับทหารของสัมพันธมิตร 100,000 คน เข้าไปปฏิวัติการรบในเวียดนาม แต่ในที่สุดเวียดนามเหนือของโฮจิมินห์ก็บุกเข้าโจมตีไซ่ง่อน โดยกองกำลังเวียดกง (Viet Cong หรือ Vietnamese Community) ทหารเวียดนามเหนือบุกเข้าไซ่ง่อนและเมืองใหญ่ๆ อีก 64 เมืองพร้อมๆกันในวันเทศกาลเต๊ด (Tet) หรือวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติของเวียดนาม กองทหารเวียดกงสามารถบุกเข้าถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงไซ่ง่อนได้ด้วย เหตุการณ์นี้นั้นทำให้สหรัฐฯ เสียหน้ามาก จนประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศ

โฮจิมินห์เสียชีวิตในปีค.ศ. 1969 ก่อนที่จะได้เห็นความสำเร็จใจการรวมเวียดนามทั้งสองเข้าด้วยกัน ขณะที่การสู้รบระหว่างสหรัฐอเมริกากับเวียดกงยืดเยื้อ รัฐบาลสหรัฐฯ ถูกโจมตี และชาวสหรัฐฯ เดินขบวนต่อต้านการทำสงครามเวียดนาม ในที่สุดสหรัฐอเมริกาก็ตัดสินใจยุติการสู้รบและถอนทหารออกจากเวียดนาม หลังจากนั้นไม่นานกองกำลังคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือก็บุกเข้ายึดไซ่ง่อนเป็นผลสำเร็จในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1975 เป็นการยุติการสู้รบเพื่อปลดแอกและรวมชาติที่กระทำมาเป็นเวลานาน ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เป็นของชาวเวียดนามที่มีชัยชนะเหนือจักรวรรดินิยมถึง 2 ชาติ คือ ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา

เวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้รวมกันเป็นเวียดนามเดียวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1975 หลังจากนั้นเวียดนามก็ได้ใช้ชื่อประเทศอย่างเป็นทางการว่า “ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” (Socialist Republic of Vietnam)

ทัวร์แนะนำ

  1. เหมากรุ๊ป Team Building
  2. เหมากรุ๊ป CSR
  3. เหมากรุ๊ป Team Building และ CSR
  4. เหมากรุ๊ปทัวร์ในประเทศ
  5. เหมากรุ๊ปทัวร์เอเชีย

ศูนย์รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับในประเทศและโซนเอเชีย

นิววิวทัวร์ รับจัด Outing, Team Building, CSR, Walk Rally, สัมนานอกสถานที่, ดูงาน สำหรับบริษัทในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง

เชื่อถือได้

เราเป็นบริษัทที่ทำด้านการท่องเที่ยวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีลูกค้าต่างๆมากมาย ซึ่งเชื่อมั่นในคุณภาพของการดำเนินงานของเรา

ราคาคุ้มค่า

ทุกแพ็คเก็จทัวร์มีรายละเอียดและแผนงาน ที่ทำให้คุ้มค่ากับทุกบาทที่ลูกค้าเลือกเรา

บริการต่อเนื่อง

 เมื่อมีโปรโมชั่นใหม่ๆ หรือ ทัวร์น่าเทียว เราจะแจ้งให้ทราบตามส่วนติดต่อที่ระบุไว้ให้กับเรา 

ข้อมูลเพิ่มเติม

เราทีทีมงานที่พร้อมให้ข้อมูลกับลูกค้าทุกท่าน เพียงแค่โทรหาเรา

นิววิวทัวร์พาเที่ยว

กับผลงานการจัดทัวร์บางส่วนของความมุ่งมั่นในการให้บริการจากเราและการอุปการะคุณที่ดีของลูกค้าที่ผ่านมาโดยตลอด

คำยืนยันลูกค้า

คำยืนยัน ในคุณภาพและผลงานการจัดทัวร์จากลูกค้าบางส่วนของ นิววิวทัวร์